ตอน 1
มันง่ายมากที่จะโพสต์ไปในทิศทางแห่งการรักในหลวง และโจมตีคนอื่นๆ ที่วิจารณ์ว่าเป็นพวกล้มเจ้า หรือต่อว่าอย่างหยาบคาย บลา บลา...
ประเด็นคือหลายคนเช่นพวกคุณทั้งหลายที่ออกมาดิ้นกันจะเป็นจะตายเพราะมีคนวิจารณ์สถาบันฯ มีจำนวนไม่น้อยเคยไปอยู่ต่างแดน และเคยเห็นว่าประเทศที่มีกษัตริย์หรือราชินีประเทศอื่นๆ เขาก็ถกเถียงเรื่องนี้กันได้อย่างเต็มที่ ไม่มีใครแจ้งจับใครเข้าคุก ก่นด่า ต่อว่า แช่งชักหักกระดูก หรือขู่ฆ่าให้ตายเช่นที่พวกท่าน (กลุ่มหนึ่งนี้) กระทำกันอยู่่...
รักไม่รักควรเป็นเรื่องสิทธิส่วนบุคคล และคนที่ไม่รักก็ไม่ได้หมายความว่าเป็นพวกล้มสถาบันฯ และควรจะได้มีสิทธิแสดงออกซึ่งความคิดเห็นของเขาได้ ในขณะที่สื่อ 100% ที่ผ่านมาไม่เคยให้โอกาสคนที่วิจารณ์สถาบันฯ ออกสื่อเลย รายการตอบโจทก์นี้เกือบจะเป็นสื่อกระแสหลักสื่อแรกเลยมั๋งที่เปิดพูดคุยเรื่องนี้... ซึ่งเป็นก้าวย่างที่น่าชื่นชมมากๆ และขอขอบคุณ...
อ้อ! ประเทศไทยนี้ยังไม่เคยมีประชาชนล้มสถาบันเลย เห็นแต่ทหารทำปฏิวัติไม่รู้กี่ครั้งในนาม "เพื่อปกป้องสถาบันฯ"
วิธีคิดของ อ. สุลักษณ์นี่เป็นตัวแทนของวิธีคิดคนส่วนหนึ่งที่ก่อหวอดเป็นพันธมิตร คือ "ไม่เอาทักษิณ" และบิดหักทุกหลักการ เพราะยุทธศาสตร์ว่า "โค่นหรือล้มทักษิณไม่ว่าจะด้วยมาตรการใดก็ตาม"
เมื่ออยู่บนฐานคิดนี้ ก็เป็นวิถีการเมืองแบบเด็กเกเรที่ "หักทุกหลักการประชาธิปไตย" และไม่ยอมรับ "หลักการประชาธิปไตย"
ตรรกะ อ. สุลักษณ์สับสนในเรื่องการยึดมั่นใน "หลักการ" แต่เล่นนอกกติกาได้ เมื่อเกี่ยวกับ "ตัวบุคคล" ที่ไม่ชอบในที่นี่คือ "ทักษิณ"
กูไม่ชอบทักษิณเลย แต่ก็กระอักกระอ่วนและกังวลกับนโยบายหลายตัวของทักษิณ แต่ก็ยอมรับรัฐบาลทักษิณในฐานะที่ได้รับเลือกตั้งเข้ามาบริหารประเทศ และก็ไม่มีทางยุให้ทหารทำรัฐประหาร หรือเห็นดีเห็นงามกับการทำรัฐประหารโค่นทักษิณ
นี่เป็นจุดต่างแห่งการถกเถียงตอนนี้ระหว่างค่าย "รอยัลลิสต์" กับ "ค่ายประชาธิปไตย"
ค่ายรอยัลลิสต์ยืนอยู่ "ประชาธิปไตยที่มีข้ออ้าง มีข้อยกเว้น" แต่
"ค่ายประชาธิปไตย" ยืนยันว่า "หลักการประชาธิปไตยต้องไม่มีข้ออ้าง หรือข้อยกเว้น"
อ. สุลักษณ์นี่ตรรกะสับสนนะ พูดแบบมี "ข้อยกเว้น" ตลอด
... วิจารณ์ได้ แต่ต้องอ่อนน้อมถ่อมตน ... (ถ้าไม่อ่อนน้อมถ่อมตน คือ ไม่กราบ ก็ถือว่าหมิ่นฯ ใช่ไหมฮะ) ...
ที่น่าตระหนกคือ อ. ยังอ้างข้ออ้างที่ว่าเรายัง "ไม่เป็นประชาธิปไตยแบบยุโรป" ... อันนี้ไม่น่าเชื่อว่า อ. จะถูกยกมาอ้างเช่นนี้ แทนที่จะพูดไปข้างหน้าว่า จะทำอย่างไรให้เป็นแบบนั้น
สุลักษณ์นี่แก่และกลายเป็น outdated ไปได้ขนาดนี้เลย ...พูดแบบคนที่เป็น "อภิสิทธิชน" ตลอด... น่าเสียดาย
ไม่คิดว่า ส. อยู่ในสภาพพูดแบบป้องกันตัวเองแล้วฮะ แกเลยสภาพนั้นมาแล้วล่ะ
แต่คิดว่าแกเป็น monarchist จริงๆ และก็พูดแบบคนนิยมสถาบันกษัตริย์จะพูด
ประเด็นต่อไปที่ต้องถกคือ เมื่อทัศนคติ ส. แบบ Monarchists แบบนี้ จะลงมาหาทางจูนกับคนที่ไม่เป็น monarchist อย่างไร
คนที่ไม่ได้อยู่ในจุดที่ "อ่อนน้อมถ่อมตน" เช่นในจุดที่อาจารย์รับได้ แต่อยู่ในจุดที่ยืนยันใน "หลักการประชาธิปไตยไม่มีข้อยกเว้นตามกติกาสากล"
อาจารย์จะทำใจยอมรับได้ไหม และจะช่วยพูดให้ royalists หรือ monarchists คนอื่นๆ เข้าใจได้ไหม
และอาจารย์จะยินดีปรีดาให้พวกเขาที่ "ไม่อ่อนน้อมถ่อมตน" ถูกดำเนินคดีด้วย 112 หรือไม่ เมื่อมันเลยจุดแห่งการประนีประนอมตามวิธีคิดของอาจารย์มาไกลกว่าที่อาจารย์พูด
นี่เป็นประเด็นท้าทายข้อถกเถียงเมืองไทยต่อไปนี้นะ .. คือ สังคมไทยจะรับเรื่อง "เสรีภาพในการแสดงออก" และมีการเตือนสติกันให้มี "ความอดทนอดกลั้น" ต่อความคิดเห็นต่างให้มากกว่านี้ (อย่างมาก) ได้อย่างไร
คนที่มีบารมีพูดแล้วคนฟัง ควรจะพูดถึงประเด็นเหล่านี้ด้วย ไม่ใช่ฉาบฉิวกันแต่เรื่อง 112 และ "ประชาธิปไตยแบบไทยๆ ที่มีข้อยกเว้นอันล่วงละเมิดมิได้" อยู่ร่ำไป
ถ้าคุยกันแค่นี้ (แค่เนี๊ย) แล้วจะสถาบันจะล่มสลาย ประเทศจะล่มสลาย ต้องบอกว่าคนไทยมีปัญญาคับแคบและตื้นเขินกว่าที่พยายามแสดงออกหรือสร้างภาพ
ตอน 2
สื่อ ปัญญาชน นักการเมือง รอยัลลิสต์ ทำตัวราวกับว่าในหลวงและพระบรมวงศานุวงศ์ เป็น "ไข่ไดโนเสาร์" ที่มีมูลค่ามากเพราะใกล้จะสูญพันธ์ุ จำต้องต้องประคบประหงม อย่าให้ระคายเคืองเบื้องพระยุคลบาท ไม่ว่าจะในรูปแบบใดๆ ทั้งสิ้น
แหม กูขอพูดตรงๆ นะ ในหลวงและพระบรมวงศานุวงศ์อายุกันขนาดไหนแล้ว ผ่านการเมืองร้อนหนาวมามากกว่าทุกนายกรัฐมนตรี ทุกรัฐมนตรี ทุกนักกรเมือง และทุกปลัดกระทรวงฯ หรืออธิบดีต่างๆ
ที่ลุกมาปกป้องกันอย่าง "ล้นเกิน" นี่ไม่คิดหรือว่าพวกท่านต่างหากที่ปฏิบัติกับพระบรมวงศานุวงศ์ราวกับเป็นไข่ในหิน ราวกับเป็นเด็กที่ยังไม่โต
เห็นคนคลั่งเจ้าเขียนที่ TPBS เรื่องต้อง "สำนึกบุญคุณ" และต่อว่าคนวิจารณ์เจ้าว่า "เนรคุณแผ่นดิน" กันอยู่หลายโพสต์
ขอยืนยันอีกครั้งว่า...
เพราะกูสำนึกบุญคุณแผ่นดิน และบุญคุณของภาษีประชาชนที่อุดหนุนการศึกษาจนกูจบมหาวิทยาลัย ..ทั้งนี้คงต้องเตือนความจำกันด้วยว่า กระทรวงศึกษาธิการเป็นกระทรวงที่ได้รับงบประมาณแผ่นดินมากที่สุดทุกปี มากกว่าทุกกระทรวง และทุกหน่วยงาน
กูถึงต้องตอบแทนบุญคุณแผ่นดินด้วยการสู้เพื่อประชาธิปไตยที่คนทุกคนได้รับการปฏิบัติอย่างเท่าเทียมกันและด้วยความเคารพในศักดิ์ศรี
ทั้งนี้กูตระหนักดียิ่งว่า ...
แผ่นดินไทยประวัติศาสตร์ยาวนานเป็นพันเป็นหมื่นปี และมนุษย์ก็มีประวัติศาสตร์แห่งพัฒนาการหลายหมื่นปี
แน่นอน กูสำนึกบุญคุณและขอบคุณธรรมชาติและเผ่าพันธุ์มนุษย์ต่างๆ ที่สร้างและถ่ายทอดส่งต่ออารยธรรมมาจนถึงปัจจุบัน
ความสำนึกแผ่นดินเกิด กูลึกและไปไกลหลายพันปี ไม่ใช่แค่รัตนโกสินทร์สองร้อยปีที่พวกคนรักในหลวงทั้งหลายพยายามอ้างเป็นบุญเป็นคุณกันเหลือเกินอยู่ตอนนี้
อีกนิดหนึ่งนะ ...
พวกที่ชอบทวงบุญคุณแผ่นดิน และปล่อยคำด่าว่าผุดขึ้นมาในอินเตอร์เนทอย่างสะเพร่าว่า "คนไม่รักในหลวง" "เนรคุณแผ่นดิน" หรือ "ไม่สำนึกบุญคุณแผ่นดิน" "ไสหัวไปประเทศอื่นไป๊ ฯลฯ" ทั้งหลายเหล่านี้ อาจจะคิดว่าตัวเองโก้เก๋ ดูดีที่พูดคำเหล่านี้ออกมา
แต่กูขอบอกเลยนะว่า ... นอกจากมันไม่เท่ห์เลยแล้ว มันยังเชยระเบิดและประจานความงี่เง่าของคนเขียนออกมาอีกต่างหาก
"คนไม่รักในหลวง" หรือ "คนวิจารณ์เจ้า" ไม่ใช่เหยื่อให้พวก "รักในหลวง" "คลั่งในหลวง" จะทำปู้ยี่ปู้ยำ ด่าทอ สาปแช่ง ขู่ฆ่า หรือขู่ใช้มาตรา 112 อย่างไรก็ได้นะฮะ
อย่าถ่อยเพื่อพ่อกันง่ายๆ เลยนะฮะ เพราะมันไม่ได้ทำให้คนกลัวกันได้ทุกคนหรอก
ตอน 3
ไม่นึกถึงหัวจิตหัวใจคนไทยรักชาติแต่ไม่รักเจ้าจนคลั่งบ้างเลย ที่ต้องทนกับรายการอวย 24 ชั่วโมงรอบตัว.
- แม้เข้าโรงหนังเพื่อไปพักผ่อนก็ยังไม่เว้นถูกบังคับทางสังคมให้ต้องยืนเคารพเพลงสรรเสริญพระบารมีก่อนหนังฉาย
- ต้องรอจนข่าวพระราชสำนักตอนสองทุ่มจบ ถึงจะได้ดูละครที่ติดงอมแงม.
- ต้องทนดูทีวีพูลถ่ายทอดพระราชกรณียกิจและรายการสดุดีเฉลิมพระเกียรติ จะหนีไปช่องไหนก็ไม่ได้ เพราะบังคับถ่ายทอดหมด.
- ยามดูสารคดีวิถีชีวิตของชาวบ้าน ต้องสลบตอนจบกับการยกความดีความชอบของ 60-70 ปีแห่งการพากเพียรให้กับพระปรีชาชาญของในหลวงทุกเรื่อง.
อ้อและทั้ง
- ต้องทนเห็นป้ายโฆษณา "ทรงพระเจริญ" "เรารักในหลวง" พร้อมพระฉายาลักษณ์โตเท่าตึกในหลายตึกทั่วประเทศไทย.
- ทั้งทางตรงหรือทางอ้อมต้องซื้อเสื้อยืด สายข้อมือ เหรียญตรา ธนบัตร เพื่อบริจาคในพระราชกุศลตามพระราชอัธยาศัยครั้งละหลายร้อยล้านบาท... ล่าสุด 700 ล้านบาท.
- ถ้าอาศัยอยุ่ในที่สนง. ทรัพย์สินต้องเตรียมใจถูกเวณคืนทุกเมื่อ
- หรือถ้าไม่อยู่อาศัยในที่ดิน สนง. ทรัพย์สิน แต่ในที่ดินตัวเอง ในบ้านตัวเองที่ยังผ่อนธนาคารไม่หมด ก็ต้องทำกับความกักขฬะของคนคลั่งเจ้าที่ไล่ให้ออกจากประเทศไปกันทุกวัน.
ไม่นับว่ามีจำนวนมากถูกขู่ ถูกรังควาญ ถูกจับเข้าคุก หรือตายในคุก เพราะมีคนคลั่งเจ้าแจ้งความจริง แจ้งความเท็จว่าหมิ่นในหลวงอีก.
พวกคนไม่รักเจ้าต้องทนและเจ็บปวดมากมาย แต่พวกคนรักเจ้าทนไม่ได้แม้จะเห็นรายการทีวีสาธารณะพูดเรื่องสถาบันแค่รายการเดียวนี้ และเป็นรายการพูดคุยเรื่องการเมืองด้วย.
ทนไม่ได้ก็ไม่ต้องดูซิ อย่ามาบังคับปิดปาก ปิดหู ปิดตากันซิ.
พวกท่านทำราวกับว่า "ความรักในหลวง" นี่มันช่างเปราะบางเสียเหลือเกิน ราวกับแวมไพร์ ที่จะสลายได้ทุกเมื่อเมื่อต้องแสงตะวัน.
อ้าวตกลง ตอบโจทย์เอา อ.สมศํกดิ์ และ ฮ.สุลักษณ์มาปั่นกระแสแค่นั้นหรือ?
น่าเศร้ามากที่ TPBS ถอดเทปตอนจบของการถกเถียงในประเด็น "สถาบันกษัตริย์ใต้รัฐธรรมนูญ".
แค่คนคลั่งไม่กี่คนก็ทำให้ TPBS ต้องถอดเทปได้ แล้วเสรีภาพของสื่อสาธารณะที่อยู่ด้วยเงินอุดหนุนจากภาษีปีละ 2000 ล้านอยู่ที่ไหน.
TPBS จะตอบคำถามกับประชาชนอย่างไรแล จะทำให้ประชาชนเชื่อใจได้อย่างไรว่าทีวีสาธารณะที่ก่อตั้งขึ้นมาเพื่อเสรีภาพสื่อเช่น TPBS จะดำรงเสรีภาพสื่อที่จะพูดและนำเสนอปัญหาทุกเรื่องของประเทศไทยได้.
มันง่ายมากที่จะโพสต์ไปในทิศทางแห่งการรักในหลวง และโจมตีคนอื่นๆ ที่วิจารณ์ว่าเป็นพวกล้มเจ้า หรือต่อว่าอย่างหยาบคาย บลา บลา...
ประเด็นคือหลายคนเช่นพวกคุณทั้งหลายที่ออกมาดิ้นกันจะเป็นจะตายเพราะมีคนวิจารณ์สถาบันฯ มีจำนวนไม่น้อยเคยไปอยู่ต่างแดน และเคยเห็นว่าประเทศที่มีกษัตริย์หรือราชินีประเทศอื่นๆ เขาก็ถกเถียงเรื่องนี้กันได้อย่างเต็มที่ ไม่มีใครแจ้งจับใครเข้าคุก ก่นด่า ต่อว่า แช่งชักหักกระดูก หรือขู่ฆ่าให้ตายเช่นที่พวกท่าน (กลุ่มหนึ่งนี้) กระทำกันอยู่่...
รักไม่รักควรเป็นเรื่องสิทธิส่วนบุคคล และคนที่ไม่รักก็ไม่ได้หมายความว่าเป็นพวกล้มสถาบันฯ และควรจะได้มีสิทธิแสดงออกซึ่งความคิดเห็นของเขาได้ ในขณะที่สื่อ 100% ที่ผ่านมาไม่เคยให้โอกาสคนที่วิจารณ์สถาบันฯ ออกสื่อเลย รายการตอบโจทก์นี้เกือบจะเป็นสื่อกระแสหลักสื่อแรกเลยมั๋งที่เปิดพูดคุยเรื่องนี้... ซึ่งเป็นก้าวย่างที่น่าชื่นชมมากๆ และขอขอบคุณ...
อ้อ! ประเทศไทยนี้ยังไม่เคยมีประชาชนล้มสถาบันเลย เห็นแต่ทหารทำปฏิวัติไม่รู้กี่ครั้งในนาม "เพื่อปกป้องสถาบันฯ"
* * * * * * * * *
เมื่ออยู่บนฐานคิดนี้ ก็เป็นวิถีการเมืองแบบเด็กเกเรที่ "หักทุกหลักการประชาธิปไตย" และไม่ยอมรับ "หลักการประชาธิปไตย"
ตรรกะ อ. สุลักษณ์สับสนในเรื่องการยึดมั่นใน "หลักการ" แต่เล่นนอกกติกาได้ เมื่อเกี่ยวกับ "ตัวบุคคล" ที่ไม่ชอบในที่นี่คือ "ทักษิณ"
กูไม่ชอบทักษิณเลย แต่ก็กระอักกระอ่วนและกังวลกับนโยบายหลายตัวของทักษิณ แต่ก็ยอมรับรัฐบาลทักษิณในฐานะที่ได้รับเลือกตั้งเข้ามาบริหารประเทศ และก็ไม่มีทางยุให้ทหารทำรัฐประหาร หรือเห็นดีเห็นงามกับการทำรัฐประหารโค่นทักษิณ
นี่เป็นจุดต่างแห่งการถกเถียงตอนนี้ระหว่างค่าย "รอยัลลิสต์" กับ "ค่ายประชาธิปไตย"
ค่ายรอยัลลิสต์ยืนอยู่ "ประชาธิปไตยที่มีข้ออ้าง มีข้อยกเว้น" แต่
"ค่ายประชาธิปไตย" ยืนยันว่า "หลักการประชาธิปไตยต้องไม่มีข้ออ้าง หรือข้อยกเว้น"
* * * * * * * * *
... วิจารณ์ได้ แต่ต้องอ่อนน้อมถ่อมตน ... (ถ้าไม่อ่อนน้อมถ่อมตน คือ ไม่กราบ ก็ถือว่าหมิ่นฯ ใช่ไหมฮะ) ...
ที่น่าตระหนกคือ อ. ยังอ้างข้ออ้างที่ว่าเรายัง "ไม่เป็นประชาธิปไตยแบบยุโรป" ... อันนี้ไม่น่าเชื่อว่า อ. จะถูกยกมาอ้างเช่นนี้ แทนที่จะพูดไปข้างหน้าว่า จะทำอย่างไรให้เป็นแบบนั้น
สุลักษณ์นี่แก่และกลายเป็น outdated ไปได้ขนาดนี้เลย ...พูดแบบคนที่เป็น "อภิสิทธิชน" ตลอด... น่าเสียดาย
* * * * * * * * *
ไม่คิดว่า ส. อยู่ในสภาพพูดแบบป้องกันตัวเองแล้วฮะ แกเลยสภาพนั้นมาแล้วล่ะ
แต่คิดว่าแกเป็น monarchist จริงๆ และก็พูดแบบคนนิยมสถาบันกษัตริย์จะพูด
ประเด็นต่อไปที่ต้องถกคือ เมื่อทัศนคติ ส. แบบ Monarchists แบบนี้ จะลงมาหาทางจูนกับคนที่ไม่เป็น monarchist อย่างไร
คนที่ไม่ได้อยู่ในจุดที่ "อ่อนน้อมถ่อมตน" เช่นในจุดที่อาจารย์รับได้ แต่อยู่ในจุดที่ยืนยันใน "หลักการประชาธิปไตยไม่มีข้อยกเว้นตามกติกาสากล"
อาจารย์จะทำใจยอมรับได้ไหม และจะช่วยพูดให้ royalists หรือ monarchists คนอื่นๆ เข้าใจได้ไหม
และอาจารย์จะยินดีปรีดาให้พวกเขาที่ "ไม่อ่อนน้อมถ่อมตน" ถูกดำเนินคดีด้วย 112 หรือไม่ เมื่อมันเลยจุดแห่งการประนีประนอมตามวิธีคิดของอาจารย์มาไกลกว่าที่อาจารย์พูด
นี่เป็นประเด็นท้าทายข้อถกเถียงเมืองไทยต่อไปนี้นะ .. คือ สังคมไทยจะรับเรื่อง "เสรีภาพในการแสดงออก" และมีการเตือนสติกันให้มี "ความอดทนอดกลั้น" ต่อความคิดเห็นต่างให้มากกว่านี้ (อย่างมาก) ได้อย่างไร
คนที่มีบารมีพูดแล้วคนฟัง ควรจะพูดถึงประเด็นเหล่านี้ด้วย ไม่ใช่ฉาบฉิวกันแต่เรื่อง 112 และ "ประชาธิปไตยแบบไทยๆ ที่มีข้อยกเว้นอันล่วงละเมิดมิได้" อยู่ร่ำไป
* * * * * * * * *
คือถ้าถามว่าการถกกันวันนี้แรงไหม ไม่แรงเลย และก็ยังแตะๆ ไม่ได้ลงในแก่นๆ เลย ยังคุยแบบผิวๆ มาก ... เกร็งกันทั้งสามคนมั๊ง!
ถ้าคุยกันแค่นี้ (แค่เนี๊ย) แล้วจะสถาบันจะล่มสลาย ประเทศจะล่มสลาย ต้องบอกว่าคนไทยมีปัญญาคับแคบและตื้นเขินกว่าที่พยายามแสดงออกหรือสร้างภาพ
* * *
ตอน 2
สื่อ ปัญญาชน นักการเมือง รอยัลลิสต์ ทำตัวราวกับว่าในหลวงและพระบรมวงศานุวงศ์ เป็น "ไข่ไดโนเสาร์" ที่มีมูลค่ามากเพราะใกล้จะสูญพันธ์ุ จำต้องต้องประคบประหงม อย่าให้ระคายเคืองเบื้องพระยุคลบาท ไม่ว่าจะในรูปแบบใดๆ ทั้งสิ้น
แหม กูขอพูดตรงๆ นะ ในหลวงและพระบรมวงศานุวงศ์อายุกันขนาดไหนแล้ว ผ่านการเมืองร้อนหนาวมามากกว่าทุกนายกรัฐมนตรี ทุกรัฐมนตรี ทุกนักกรเมือง และทุกปลัดกระทรวงฯ หรืออธิบดีต่างๆ
ที่ลุกมาปกป้องกันอย่าง "ล้นเกิน" นี่ไม่คิดหรือว่าพวกท่านต่างหากที่ปฏิบัติกับพระบรมวงศานุวงศ์ราวกับเป็นไข่ในหิน ราวกับเป็นเด็กที่ยังไม่โต
* * * * * * * * *
เห็นคนคลั่งเจ้าเขียนที่ TPBS เรื่องต้อง "สำนึกบุญคุณ" และต่อว่าคนวิจารณ์เจ้าว่า "เนรคุณแผ่นดิน" กันอยู่หลายโพสต์
ขอยืนยันอีกครั้งว่า...
เพราะกูสำนึกบุญคุณแผ่นดิน และบุญคุณของภาษีประชาชนที่อุดหนุนการศึกษาจนกูจบมหาวิทยาลัย ..ทั้งนี้คงต้องเตือนความจำกันด้วยว่า กระทรวงศึกษาธิการเป็นกระทรวงที่ได้รับงบประมาณแผ่นดินมากที่สุดทุกปี มากกว่าทุกกระทรวง และทุกหน่วยงาน
กูถึงต้องตอบแทนบุญคุณแผ่นดินด้วยการสู้เพื่อประชาธิปไตยที่คนทุกคนได้รับการปฏิบัติอย่างเท่าเทียมกันและด้วยความเคารพในศักดิ์ศรี
ทั้งนี้กูตระหนักดียิ่งว่า ...
แผ่นดินไทยประวัติศาสตร์ยาวนานเป็นพันเป็นหมื่นปี และมนุษย์ก็มีประวัติศาสตร์แห่งพัฒนาการหลายหมื่นปี
แน่นอน กูสำนึกบุญคุณและขอบคุณธรรมชาติและเผ่าพันธุ์มนุษย์ต่างๆ ที่สร้างและถ่ายทอดส่งต่ออารยธรรมมาจนถึงปัจจุบัน
ความสำนึกแผ่นดินเกิด กูลึกและไปไกลหลายพันปี ไม่ใช่แค่รัตนโกสินทร์สองร้อยปีที่พวกคนรักในหลวงทั้งหลายพยายามอ้างเป็นบุญเป็นคุณกันเหลือเกินอยู่ตอนนี้
* * * * * * * * *
พวกที่ชอบทวงบุญคุณแผ่นดิน และปล่อยคำด่าว่าผุดขึ้นมาในอินเตอร์เนทอย่างสะเพร่าว่า "คนไม่รักในหลวง" "เนรคุณแผ่นดิน" หรือ "ไม่สำนึกบุญคุณแผ่นดิน" "ไสหัวไปประเทศอื่นไป๊ ฯลฯ" ทั้งหลายเหล่านี้ อาจจะคิดว่าตัวเองโก้เก๋ ดูดีที่พูดคำเหล่านี้ออกมา
แต่กูขอบอกเลยนะว่า ... นอกจากมันไม่เท่ห์เลยแล้ว มันยังเชยระเบิดและประจานความงี่เง่าของคนเขียนออกมาอีกต่างหาก
* * * * * * * * *
อย่าถ่อยเพื่อพ่อกันง่ายๆ เลยนะฮะ เพราะมันไม่ได้ทำให้คนกลัวกันได้ทุกคนหรอก
* * *
ตอน 3
กลุ่มคนไทยผู้รักชาตินี่ช่างเห็นแก่ตัวเหลือเกิน รายการตอบโจทย์รายการเดียวก็ทนฟังไม่ได้
ไม่นึกถึงหัวจิตหัวใจคนไทยรักชาติแต่ไม่รักเจ้าจนคลั่งบ้างเลย ที่ต้องทนกับรายการอวย 24 ชั่วโมงรอบตัว.
- แม้เข้าโรงหนังเพื่อไปพักผ่อนก็ยังไม่เว้นถูกบังคับทางสังคมให้ต้องยืนเคารพเพลงสรรเสริญพระบารมีก่อนหนังฉาย
- ต้องรอจนข่าวพระราชสำนักตอนสองทุ่มจบ ถึงจะได้ดูละครที่ติดงอมแงม.
- ต้องทนดูทีวีพูลถ่ายทอดพระราชกรณียกิจและรายการสดุดีเฉลิมพระเกียรติ จะหนีไปช่องไหนก็ไม่ได้ เพราะบังคับถ่ายทอดหมด.
- ยามดูสารคดีวิถีชีวิตของชาวบ้าน ต้องสลบตอนจบกับการยกความดีความชอบของ 60-70 ปีแห่งการพากเพียรให้กับพระปรีชาชาญของในหลวงทุกเรื่อง.
อ้อและทั้ง
- ต้องทนเห็นป้ายโฆษณา "ทรงพระเจริญ" "เรารักในหลวง" พร้อมพระฉายาลักษณ์โตเท่าตึกในหลายตึกทั่วประเทศไทย.
- ทั้งทางตรงหรือทางอ้อมต้องซื้อเสื้อยืด สายข้อมือ เหรียญตรา ธนบัตร เพื่อบริจาคในพระราชกุศลตามพระราชอัธยาศัยครั้งละหลายร้อยล้านบาท... ล่าสุด 700 ล้านบาท.
- ถ้าอาศัยอยุ่ในที่สนง. ทรัพย์สินต้องเตรียมใจถูกเวณคืนทุกเมื่อ
- หรือถ้าไม่อยู่อาศัยในที่ดิน สนง. ทรัพย์สิน แต่ในที่ดินตัวเอง ในบ้านตัวเองที่ยังผ่อนธนาคารไม่หมด ก็ต้องทำกับความกักขฬะของคนคลั่งเจ้าที่ไล่ให้ออกจากประเทศไปกันทุกวัน.
ไม่นับว่ามีจำนวนมากถูกขู่ ถูกรังควาญ ถูกจับเข้าคุก หรือตายในคุก เพราะมีคนคลั่งเจ้าแจ้งความจริง แจ้งความเท็จว่าหมิ่นในหลวงอีก.
พวกคนไม่รักเจ้าต้องทนและเจ็บปวดมากมาย แต่พวกคนรักเจ้าทนไม่ได้แม้จะเห็นรายการทีวีสาธารณะพูดเรื่องสถาบันแค่รายการเดียวนี้ และเป็นรายการพูดคุยเรื่องการเมืองด้วย.
ทนไม่ได้ก็ไม่ต้องดูซิ อย่ามาบังคับปิดปาก ปิดหู ปิดตากันซิ.
พวกท่านทำราวกับว่า "ความรักในหลวง" นี่มันช่างเปราะบางเสียเหลือเกิน ราวกับแวมไพร์ ที่จะสลายได้ทุกเมื่อเมื่อต้องแสงตะวัน.
* * * * * * * * *
น่าเศร้ามากที่ TPBS ถอดเทปตอนจบของการถกเถียงในประเด็น "สถาบันกษัตริย์ใต้รัฐธรรมนูญ".
แค่คนคลั่งไม่กี่คนก็ทำให้ TPBS ต้องถอดเทปได้ แล้วเสรีภาพของสื่อสาธารณะที่อยู่ด้วยเงินอุดหนุนจากภาษีปีละ 2000 ล้านอยู่ที่ไหน.
TPBS จะตอบคำถามกับประชาชนอย่างไรแล จะทำให้ประชาชนเชื่อใจได้อย่างไรว่าทีวีสาธารณะที่ก่อตั้งขึ้นมาเพื่อเสรีภาพสื่อเช่น TPBS จะดำรงเสรีภาพสื่อที่จะพูดและนำเสนอปัญหาทุกเรื่องของประเทศไทยได้.