5 มิ.ย. 13


สอบแล้วก้อ ลืม

ถ้ามองแบบกว้างๆ การมองแบบนี้ก็ให้ภาพสะท้อนการศึกษาได้เหมือนกัน

แม้ในความเป็นจริง ทุกการศึกษามันจะพยายามให้มีทุกประเด็นอยู่ในการศึกษาทั้งนั้น แต่ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมในประเทศไทย "การเรียนเพื่อสอบ" จึงโดดเด่นออกมาอย่างชัดเจนเช่นนี้

* * *

ผู้ผลิตรายการและกรรมการทั้งสามคนของรายการ Thailand's got talent อาจจะตีความคำว่า "talent" ว่า ความสามารถที่ "พิเศษ" กว่าสภาวะร่างกายและกำลังทรัพย์ในยามปกติของผู้เข้าประกวดคนนั้นควรจะมี

โดยไม่ได้มองผู้ประกวดทุกคนในฐานะแห่งการคนเท่ากันตั้งแต่แรก

คะแนนเลยเอนเอียงไปใส่ให้กับ "ความด้อย" กว่าคนปกติ ของผู้เข้าประกวดคนนั้น คนนี้เป็นสำคัญด้วยก็ได้ฮะ

และกรรมการก็จะ no comment ซาบซึ้งอย่างเดียวถ้าผู้เข้าประกวดจะเลือกการโชว์ "รักในหลวง" มาเข้าแข่งขัน

ซึ่งคิดว่านี่อาจจะเป็นพื้นฐานการคิดของรายการตั้งแต่แรก และก็อาจจะเป็นตัวดึงดูดการเข้ามาประกวดของผู้เข้าประกวดด้วยหรือเปล่าฮะ

คนที่มี talent เก่งจริงๆ จากกลุ่ม "ปกติ" ในสังคมก็อาจจะไม่อยากเข้ามาประกวดในรายการที่มีพื้นฐานการคิดแบบนี้ตั้งแต่แรกแล้วก็เป็นไปได้นะฮะ

ขออนุญาตคิดและโยนประเด็นเรื่องนี้กันอีกครั้งนะฮะ
* * *


อีกหนึ่งแห่งตรรกะที่ต้องถกกันนะฮะ

คือ เห็นคนเขียนหลายครั้งถึงรูปที่ดูเปรี้ยวจี๊ดของฟ้าหญิงอุบลรัตน์ ว่า "ไม่ถือพระองค์เลย" คือ ไม่เข้าใจว่า "ความเปรี้ยวจี๊ด" มันทำให้คน "ไม่ถือตัว" ในที่นี้ "ไม่ถือพระองค์" ไปได้อย่างไร

เพราะก็ยังเห็นต้องมีขบวนไปรับเสด็จส่งเสด็จพระองค์กันอยู่ ยังเห็นผู้คนต้องมอบกราบพระองค์กันอยู่

เพียงแค่พระองค์แต่งตัวเปรี้ยวจี๊ดไม่ได้ใส่ชุดไทยๆ เรียบร้อยเหมือนเจ้าฟ้าองค์อื่นๆ เท่านั้นเอง แต่ธรรมเนียมเข้าเจ้าเข้านายยัง "อยู่ครบ" และ "อยู่เกิน" ด้วย

เมื่อมาคิดว่า "ปัจจุบัน ทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี "เป็นสามัญชนตามที่ระบุไว้ในประกาศการลาออกจากฐานันดรศักดิ์ดังกล่าว" (พระยศเดิม สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี)

จริงๆ คือ สังคมไทยไม่ควรใช้ระเบียบปฏิบัติกับเจ้าฟ้าเจ้าแผ่นดินกับฟ้าหญิงอุบลรัตน์ด้วยซ้ำไป แต่ก็ถูกนำมาใช้กับพระองค์เสมอเหมือนเจ้าฟ้าองค์อื่นๆ

แบบนี้ไม่เรียกว่า "ไม่ถือพระองค์ฮะ" แต่น่าจะเรียกว่า "เกินไปหรือเปล่า" ซะมากกว่า
* * * 



ประชาไท "แบรดลีย์ แมนนิง ให้ปากคำในศาล ต้องการเปิดเผยความโหดร้ายของสหรัฐ"

แบรดลีย์ แมนนิงกล่าวว่า ที่เขาปล่อยข้อมูลให้กับวิกิลีกส์เนื่องจากต้องการเผยให้เห็นความโหดเหี้ยมของกองทัพสหรัฐฯ ที่ปฏิบัติอย่างไม่ใยดีต่อชีวิตมนุษย์ในอิรักและอัฟกานิสถาน โดยที่เขาไม่เชื่อว่าข้อมูลดังกล่าวจะถือว่าเป็นภัยต่อสหรัฐฯ

อ่านข่าว

ชื่นชมแบรดลีย์ 

และก็เช่นเดียวกันฮะ การพูดและเขียนอย่างตรงไปตรงมาของกูที่ไม่เซ็นเซอร์และหยุดความคิดและการศึกษาไว้ที่แค่นักการเมือง แต่วิจารณ์สถาบันประมุขของประเทศ - สถาบันพระมหากษัตริย์ - ก็เพราะว่าอยากเห็นประเทศนี้เคารพสิทธิและเสรีภาพประชาชนอย่างเท่าเทียมกันเสียที และก็เดินหน้าต่อกันไปได้ โดยที่งบประมาณแผ่นดินจำนวนมหาศาลถูกใช้อย่างระมัดระวังและรับผิดชอบ ไม่ได้ถูกใช้ไปอย่างทิ้งๆ ขว้างๆ เพราะพูดความจริงกันไม่ได้กันอย่างที่เป็นอยู่