8 ก.ย. 13

ประเมินจากคนที่ไม่ชื่นชอบชินวัตรนะฮะ

แต่เพื่อความสงบสุขในชาติ ก็คิดว่าต้องยอมรับความจริง และสู้กับชินวัตร อย่าง "ประชาชนตาสว่าง" "ประชาชนที่รู้จักสิทธิ"

สิ่งที่นักการเมือง "เกรงใจ" มากที่สุด คือ "ประชาชนฉลาด"


* * *

ประเมินดูตามสภาพความเป็นจริง

ประเทศไทยคงจะอยู่ภายใต้การบริหารของตระกูล "ชินวัตร" อีกนานเป็นทศวรรษ
เพราะไม่มีตระกูลไหนที่มีพี่น้องลูกหลานรวมกันเป็นร้อย ที่เป็นแนวร่วมที่แข็งขันและมีสื่ออยู่ในมือเช่นนี้
ทั้งยังมีเงินในระดับที่ทุ่มทางการเมืองได้เท่ากับ "ชินวัตร" เท่าที่เห็น ณ ตอนนี้

การต่อสู้กับ "ชินวัตร" แบบ "พันธมิตร" และ "ปชป. ด้วยยุทธศาสตร์
โค่นทักษิณไม่ว่าจะด้วยวิธีใดก็ตาม
รังแต่จะยิ่งทำให้ประเทศไทยเสียหาย ถอยหลัง ตกต่ำ และไร้เสถียรภาพ
และเป็นการต่อสู้ที่ไม่มีทางชนะ

วิธีการที่ดีที่สุดที่จะต่อสู้กับ "ชินวัตร" คือ

ต้องทำหน้าที่ตรวจสอบการทำงานอย่างเข้มแข็ง เพื่อให้บริหารด้วยความ โปร่งใส ไม่คอรัปชั่น ใช้งบประมาณชาติให้เกิดประโยชน์สูงสุด ไม่ใช้อำนาจเพื่อพวกพ้องและครอบครัว ไม่มีการแสวงหาความร่ำรวยล้นเกินจากอำนาจหน้าที่ ไม่บริหารบ้านเมืองแบบเผด็จการ ฯลฯ

รวมทั้งต้องร่วมกับประชาชนและในรัฐสภา เพื่อเรียกร้องให้ "ชินวัตร" ที่บริหารประเทศ ปรับแก้กฎหมายทั้งใน "รัฐธรรมนูญ" หรือทาง "กฎหมาย" เพื่อให้สิทธิและเสรีภาพในด้านต่างๆ กับประชาชน ... เพื่อให้ประชาชน โดยเฉพาะคนงาน เกษตรกร คนจน หรือคนชั้นอำนาจต่อรองน้อย สามารถต่อผู้มีอำนาจมากกว่าในสังคม โดยเฉพาะกับนายจ้าง นายทุน ข้าราชการ ทหาร ตำรวจ และนักการเมืองได้อย่างเท่าเทียมกันมากขึ้น

ถ้า ปชป.และ "พันธมิตร" ทำแบบนี้ได้
จะได้รับการชื่นชม
และไม่แน่ ปชป. อาจจะมีโอกาสได้รับเลือกกลับมาเป็นรัฐบาลสลับกับเพื่อไทยก็ได้

ทำแบบนี้เถอะ
ชาติสงบกว่า มีเสถียรภาพกว่า และมีโอกาสพัฒนาให้เจริญก้าวหน้าได้มากกว่าการที่พวกท่านเล่นเกมการเมืองกันอย่างเด็กเกเร มาเฟียของเถื่อน ที่ไม่สนใจหายนะที่จะเกิดขึ้นกับประเทศชาติเช่นนี้

* * *
สิ่งที่เจ้ากลัวมากที่สุด ก็คือ ประชาชนตาสว่าง และไม่กลัวเจ้า

เมื่อเจ้ายังไม่ปริปากสักแอะ ให้ยกเลิกกฎหมาย 112 ก็แสดงว่าเจ้ายังกลัวประชาชน

* * *
ขอถามพวก "รักในหลวง ผู้รู้สำนึกบุญคุณแผ่นดิน" และชอบคิดว่า "โลกนี้มีพื้นที่ให้เฉพาะคนรักในหลวง" เท่านั้น หน่อยนะฮะว่า 


มีคุณคนไหนบ้าง ที่เดินทางไปทุกแห่งหนในโลกนี้ได้ตามลำพัง เพื่อไปเรียนรู้และหาเพื่อนมิตรในแผ่นดินกว้างใหญ่ของประเทศอื่น ด้วยใจเปิดกว้างและไม่รู้สึกกลัวบ้างอ่ะ?


* * *

จากการอ่านบทสัมภาษณ์ของอั้ม ...

เรื่องชุดนักศึกษาไม่ใช่เรื่อง "ใจมัคร" เช่นที่คนโปรชุดนักศึกษาพยายามจะแก้ต่าง
แต่มีการบังคับทั้งทางตรงและทางอ้อมให้ต้องใส่

คนที่ต้องการอิงแอบ "ชุดนักศึกษา" เพื่อรู้สึกตัวเองสูงส่ง
ควรจะต้องรู้จัดใช้สมองฉุกคิดกันขึ้นมาได้บ้างแล้ว
ว่าทำไม "ชุดนักศึกษา" จึงเป็นเครื่องมือ "ครอบงำและคุกคาม" เสรีภาพในโลกแห่งการเรียนรู้และในสังคมไปได้เช่นนี้

และการใส่เครื่องแบบหรือติดสัญลักษณ์ เพื่อให้ตัวเองสูงส่งและเป็นอภิสิทธิชนเหนือคนอื่นเป็นเรื่องที่น่าละอายใจ ไม่ใช่เรื่องที่น่าภาคภูมิใจแต่อย่างใด


* * *

สนับสนุนให้ยกเลิกชุดนักเรียน-นักศึกษาทุกระดับการศึกษาในประเทศไทย
คนไทยจะได้รู้จักคิดเป็น เรียนเป็น ใช้เสรีภาพเป็น เป็นตัวของตัวเอง กันตั้งแต่เด็ก
* * *

ไม่ชอบเลยที่เห็นเวลาต่อว่าผู้ชายเลว หรือต่อว่านักการเมืองชายเช่นอภิสิทธิ์ แล้วใช้สัญลักษณ์กระโปรงหรือผ้าถุง มาสวมแต่งในภาพ

เช่นเดียวกับวิธีคิดเรื่องศาสนาที่ผิดมากๆ ที่ว่าถ้าผู้ชายประพฤติผิดในกาม ชาติหน้าจะเกิดเป็นหญิง
เกิดเป็นหญิง สัญลักษณ์เพศหญิงมันเลว มันต่ำต้อยตรงไหนฮะ
กูภูมิใจในเพศหญิงมาก ... เกิดชาติใดหนใดถ้าจำความได้ กูก็ยังขอเกิดเป็นเพศหญิง ไม่เคยคิด และไม่ยอมรับวาทกรรมพุทธไทยกำหนด ที่ว่า การที่หญิงเกิดเป็นเพศหญิงเพราะเป็นกรรมมาแต่ชาติปางก่อน
สังคมไทยควรจะเคารพเพศหญิง - ผ้าซิ่นและกระโปรงมากกว่านี้ - ไม่ควรเอาไปใช้แทนสัญลักษณ์แห่งความตอแหลปลิ้นปล้อน (ของผู้ชาย)
เพราะปัญหามันอยู่ที่ผู้ชายเลว ไม่ใช่อยู่ที่ผ้าซิ่นหรือกระโปรงเป็นสัญลักษณ์แห่งความด้อยกว่าชาย หรื่อต่ำกว่าชาย (ทำไมต้องสัญลักษณ์เพศหญิงล่ะ?)
และก็อ้อ ก็เพราะผ้าซิ่นและกระโปรงมันแข็งแกร่งและอุ้มชูเศรษฐกิจครอบครัวมิใช่หรือ ... ประเทศชาติมันจึงอยู่รอดปลอดภัยถึงบัดนี้