23 เม.ย. 13 (3)

ยิ่งเดินทาง ยิ่งได้พบกับผู้คน ยิ่งได้คุยกับเพื่อนเก่าและเพื่อนใหม่
ก็ยิ่งรู้สึกว่า "ประเทศไทยไม่ปกติ" และ "คนไทยไม่เหมือนใครในโลก"

ก็คงต้องให้เลือกกันเอาเองว่าจะอยู่แบบ "คนไทยไม่เหมือนใครในโลกเพราะมีกษัตริย์ที่ยิ่งใหญ่กว่ากษัตริย์ใดในโลกหล้า"

หรือจะเลือกอยู่แบบ "คนไทยก็เหมือนใครๆ ในโลก" ก็ได้ และ "กษัตริย์ไทยก็เหมือนกษัตริย์อื่นๆ ในโลก" ก็ได้

กูขอเลือกอยู่แบบหลังนะฮะ ยิ่งไม่เหมือนใครในโลก ยิ่งเป็นสาวไทย ยิ่งอยู่ลำบากฮะที่ต่างแดน ขอเหมือนใครๆ ในโลกก็แล้วกันนะ อิ อิ
* * *


สำหรับแฟนๆ Rijks Museum ที่ Amsterdam คงดีใจนะฮะ ที่ทราบว่า Rijks ที่ปิดซ่อมและเปิดให้ชมเป็นช่วงๆ บางส่วนมาสิบปี ได้เลิกเปิดให้ชมแล้วนะฮะ ตั้งแต่วันที่ 13 เมษา ที่ผ่านมา

แต่ตอนนี้คิวพิพิธภัณฑ์ทั้งหลายโดยเฉพาะ Rijks ยาวมาก

การมาฮอลแลนด์เที่ยวนี้ กูจึงไม่ได้เที่ยวพิพิธภัณฑ์เลย แต่ขอใช้เวลาพบเจอเพื่อนฝูงซะมากกว่า

ใครมาอัมเตอร์ดัม สิ่งหนึ่งที่ไม่ควรพลาดคือพิพิธภัณฑ์ฮะ มีเยอะเต็มเมืองไปหมดเลย น่าสนใจทั้งนั้นเลยล่ะ
* * *

ประวัติศาสตร์แห่งชาติของไทย เคยเขียนบอกไว้เองนานแล้วโดยสรุปว่า
1. คนไทยอพยพจากที่อื่น (จากไหนก็ไม่รู้?) เข้ามาอาศัยดินแดน(ไทย)ทุกวันนี้ ซึ่งเป็นของมอญและขอม(คือเขมร) คนไทยเป็นขี้ข้าขอม
2. ต่อมาคนไทยปลดแอกเป็นอิสระจากขอม ขับไล่ขอมออกไป แล้วสถาปนากรุงสุโขทัยเป็นราชธานีแห่งแรก เมื่อ พ.ศ. 1800
ทุกวันนี้เนื้อหาประวัติศาสตร์อย่างที่ยกมานี้ ยังใช้งานอย่างมีประสิทธิภาพอยู่ในโรงเรียนและกองทัพ แล้วอยู่ในความทรงจำของคนชั้นนำมีอำนาจอย่างเหนียวแน่น
ประวัติศาสตร์แห่งชาติของไทยอย่างนี้มีนักวิชาการบอกว่าเป็นประวัติศาสตร์เมืองขึ้นแบบอาณานิคม เรียกอีกอย่างหนึ่งว่าประวัติศาสตร์แนวดิ่งจากข้างบนลงข้างล่าง ไม่ใช่แนวราบที่มีพัฒนาการขนานไปพร้อมกับบ้านเมืองเครือญาติอื่นๆเต็มไปหมด
อย่างนี้แหละเป็นนิยายล้วนๆ ต้นแบบนิยายปลุกระดมให้คนทะเลาะกัน แล้วสร้างปัญหาให้เกิดความขัดแย้งระหว่างไทยกับเพื่อนบ้าน คือ กัมพูชา, ลาว, พม่า, มลายู เพราะไม่มีหลักฐานวิชาการประวัติศาสตร์โบราณคดีสนับสนุน 
1. ไม่เคยพบหลักฐานประวัติศาสตร์โบราณคดี ว่ามีคนไทยอพยพถอนรากถอนโคนมาจากที่อื่น (เรื่องนี้ผมเคยเขียนไว้มากแล้ว จะไม่เขียนซ้ำอีกตอนนี้)
2. เมื่อไม่มีการอพยพถอนรากถอนโคนมาจากไหน? ก็ไม่มีใครพวกเดียวเป็นเจ้าของดินแดน แล้วไม่มีใครเป็นขี้ข้าใคร ไม่มีใครปลดแอกจากใคร สุโขทัยไม่ใช่ราชธานีแห่งแรกของไทย
แต่ทางการไม่แก้ไข 
ครูบาอาจารย์ในสถาบันการศึกษาทางประวัติศาสตร์โบราณคดีก็เฉยเมยต่อปัญหาขัดแย้งที่เกิดขึ้น ทั้งๆประวัติศาสตร์โบราณคดีถูกลากให้มีส่วนด้วย
วันไหนออกอาการคลั่งชาติขึ้นมา ก็พาลด่าทอคนอื่นว่าขายชาติ โดยไม่ยอมพิจารณาตนเองว่าทำเสียหายอะไรไว้ (ราวกับพรรคประชาธิปัตย์ที่ปรับตัวไม่ทันความเปลี่ยนแปลง แล้วพาลโทษคนอื่นๆ)
แท้จริงแล้วทั้งประวัติศาสตร์ไทยและประวัติศาสตร์กัมพูชา เป็นส่วนหนึ่งของประวัติศาสตร์สุวรรณภูมิในอุษาคเนย์ แยกออกโดดๆ มิได้
คนไทยและคนกัมพูชาเป็นคนจำพวกหนึ่งในกลุ่มคนสุวรรณภูมิในอุษาคเนย์ ดังนั้น บรรพชนคนสุวรรณภูมิในอุษาคเนย์ นับเป็นบรรพชนคนไทยและคนกัมพูชาด้วย
ถ้าเอาคนสุวรรณภูมิในอุษาคเนย์แต่ละชาติประเทศทุกวันนี้ มายืนปนกันโดยแก้ผ้าและห้ามพูด จะแยกไม่ออกบอกไม่ได้เลยว่าใครเป็นคนชาติไหน? ประเทศไหน? 
เพราะล้วนเป็นคนจำพวกเดียวกัน หรือเครือญาติชาติพันธุ์เดียวกัน
ไทยและประชาคมอาเซียนควรร่วมกันพิจารณาศึกษาประวัติศาสตร์ในแนวทางกว้างขวาง อย่างมีพยานหลักฐานประวัติศาสตร์โบราณคดีดังกล่าวนี้

ขอเป็นญาติกับคนเขมร ลาว พม่า มอญ ญวน นะฮะ


ถ้าเอาคนสุวรรณภูมิในอุษาคเนย์แต่ละชาติประเทศทุกวันนี้ มายืนปนกันโดยแก้ผ้าและห้ามพูด จะแยกไม่ออกบอกไม่ได้เลยว่าใครเป็นคนชาติไหน? ประเทศไหน?

เพราะล้วนเป็นคนจำพวกเดียวกัน หรือเครือญาติชาติพันธุ์เดียวกัน

ไทยและประชาคมอาเซียนควรร่วมกันพิจารณาศึกษาประวัติศาสตร์ในแนวทางกว้างขวาง อย่างมีพยานหลักฐานประวัติศาสตร์โบราณคดีดังกล่าวนี้