29 พ.ค. 13 (2)

(1)

"รักมาก เกลียดมาก ก็คลั่งมาก"

"กูจะยิงพวกมึงให้กระจุย"
ทหารนายหนึ่งใช้เฟซบุ๊คชื่อ Golfza Infantry*
29 พฤษภาคม 2556 [1]

"กูจะยิงให้คลานเป็นหมา"
พงศ์พรหม สนิทวงศ์ ณ อยุธยา
16 มีนาคม 2556 [2]

"น่าจะเชือดอีเด็กเวรนี่ให้ตายคาเวที"
นพ.กัมปนาท ตันสิถบุตรกุล
18 เมษายน 2556 [3]

"เลิก 112 ให้ก็ได้ แล้วมึงกับพวกเอา .358 ไปก็แล้วกัน"
น.พ.ตุลย์ สิทธิสมวงศ์
3 สิงหาคม 2555 [4]

"ถึงเวลาแล้วที่ใครมีอาวุธชนิดไหนก็ต้องจับขึ้นมาใช้รบกับมัน"
พล.ต.อ.วสิษฐ เดชกุญชร
3 พฤษภาคม 2556 [5]

* ในขณะที่เขียนนี้ หลายเพจได้เปิดเผยชื่อและตำแหน่งของทหารนายนี้มาแล้ว แต่ทางเพจยังไม่สามารถยืนยันความน่าเชื่อถือของข้อมูลได้จึงขอสงวนชื่อทหารนายนี้ไว้ แต่ตอนนี้ยืนยันแล้วว่าบุคคลผู้นี้เป็นทหารจริง และเคยอยู่ที่ กองร้อยบิน กองพลทหารราบที่ 4 (แอดมินเพจ กองร้อยบิน กองพลทหารราบที่ 4 ได้ยืนยันเรื่องนี้แล้ว โดยระบุว่า "คืออยากจะบอกว่าน้องเขาย้ายไปหน่วยอื่นแล้ว...น้องไม่ได้ขึ้นการบังคับบัญชากับเราแล้ว ทางเราต้องประสานทางหน่วยใหม่ดำเนินการต่อไป") [6]

อ้างอิง

[1] http://pantip.com/topic/30543501

[2] http://www.pub-law.net/publaw/view.aspx?id=1847#_ftn1

[3] https://www.facebook.com/photo.php?fbid=551722114850607&set=pb.311158728906948.-2207520000.1369816471.&type=3&theater

[4] https://www.facebook.com/photo.php?fbid=447003158655837&set=a.311169832239171.73183.311158728906948&type=1&theater

[5] http://www.naewna.com/politic/50648

[6] https://www.facebook.com/permalink.php?story_fbid=583302721703075&id=445498878816794

เอะอะก็ขู่จะยิงกัน

เมืองไทยเมืองพุทธ "ฆ่าสัตว์ตัดชีวิตผิดศีลข้อแรก"

แต่สันดานคนไทยจำนวนไม่น้อยนี่ ผิดศีลข้อแรกตั้งแต่ในหัวสมองแล้ว

ศาสนาไม่ได้ช่วยให้คนเป็นคนดี
ศาสนาไม่ได้ช่วยให้คนไม่โหดร้ายรุนแรง
ศาสนาเป็นเพียงเครืองมือค้ำอำนาจผู้มีบารมีเท่านั้นเอง
* * *

(2)


"ปิดทองหลังพระ กับ ความหมายที่แปรเปลี่ยน"

พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. 2542 นิยามคำว่า ปิดทองหลังพระ ดังนี้ "ทําความดีแต่ไม่ได้รับการยกย่อง เพราะ ไม่มีใครห็นคุณค่า" [1]

แต่การจะบอกว่าการพระราชกรณียกิจต่างๆของของสถาบันกษัตริย์ไทยเป็นเรื่องที่ "ปิดทองหลังพระ" หรือถ้าจะให้แปลตามความหมายเดิม คือ "ไม่มีใครเห็น" หรือ "ไม่ได้รับการยกย่อง" อย่างที่คนรักเจ้าชอบทำกันมันไม่สามารถทำได้ เพราะจะเห็นว่าในประเทศไทย การโฆษณาประชาสัมพันธ์ให้คน "เห็น" และ "ยกย่อง" สถาบันกษัตริย์นั้นมีอยู่ตลอด 24 ชั่วโมง และเป็นมาแล้วหลายสิบปี นี่เป็นข้อเท็จจริงที่ปฎิเสธไม่ได้เลย

แอดมินจึงไม่แปลกใจเลยที่จะมีความพยายามสร้างนิยามใหม่ของคำนี้ โดยดูจากมูลนิธิ "ปิดทองหลังพระ" จะเห็นว่าคำนี้ได้ถูกตีความให้มีความหมายใหม่ว่าเป็น "การเพียรทำดี โดยไม่มุ่งเน้นประโยชน์ส่วนตัว" [2] ซึ่งมีความคลุมเคลือมากขึ้น แม้ในความเป็นจริงเรื่องนี้มันถกเถียงได้ไม่ยาก แต่สภาพที่ ม.112 ยังคงถูกใช้อย่างพร่ำเพรื่อและการถกเถียงเรื่องสถาบันฯ อย่างเปิดเผยยังไม่สามารถทำได้ เรื่องที่ถกเถียงได้ไม่ยากเช่นนี้ก็กลายเป็นเพียงแค่ความเชื่อและปราศจากการพิสูจน์อย่างมีเหตุมีผลโดยสิ้นเชิ

นี่เป็นอีกตัวอย่าง "ข้อยกเว้น" ที่ถูกสร้างขึ้นในสิ่งที่เกี่ยวข้องกับสถาบันกษัตริย์ของไทย

อ้างอิง

[1] http://www.pidthong.org/main.php

[2] http://dict.longdo.com/search/ปิดทองหลังพระ
มูลนิธิปิดทองหลังพระ สืบสานพระราชดำริ
"ปิดทองหลังพระ คือ การเพียรทำดี โดยไม่มุ่งเน้นประโยชน์ส่วนตน"

ขอเติมคำที่มูลนิธินี้ปิดซ่อนไว้หลังพระว่า "เพื่อยกความดีความชอบทุกอย่างให้กับพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เพื่อให้ทรงเป็นเอกมหาราชาแห่งราชาทั้งปวง"

ปิดทองหลังพระแต่ในคำพูดนะซิ 
กูเห็นใครๆ ก็อยากให้คนรู้กันทั้งนั้นว่า "กูไปปิดทองหลังพระมานะโว้ย"

* * *
(3)


ไอโฟน รถแพง มีเงินซื้อ

ก็เป็น "คนดี" นี่คะ/นี่ครับ
เป็นห่วง "คนจน" กลัวว่าจะไม่มัปัญญาซื้อไข่น่ะค่ะ/นะครับ

แต่ขอโทษอย่ามา "เสือก" เรื่องไอโฟน และเรื่องรถของกู
อุ๊ยขอโทษ หยาบไปหน่อย

ต้องบอกว่า ขอความกรุณาอย่ามาตั้งคำถามเรื่องไอโฟนเรื่องรถขอเดี้ยนนะคะ/ของผมนะครับ
คนมันเกิดมาไม่ทำกัน

แค่เดี้ยน/แค่ผมลุกมาห่วงใยเรื่องไข่แพงกลัวคนจนจะไม่มีปัญญาซื้อนี่
ก็ทำบุญทำคุณกับคนจนมากมายนักแล้วนะค่ะ/ครับ

ไปก่อนนะคะ มีนัดเสริมสวยที่สปาค่ะ!
* * *


(4)

ประเทศไทยเต็มไปด้วยบทเรียนแห่ง "ความอยุติธรรม" ที่บิดเบี้ยวและหลายมาตรฐาน

เชื่อว่าเกือบทุกครอบครัวในประเทศไทยพบเห็นหรือมีบทเรียนที่เจ็บปวดเรื่องนี้ด้วยตัวเองกันทั้งนั้น

ปัญหาเรื่อง "ความยุติธรรม" ในประเทศไทยจึงไม่ใช่เรื่องไม่รู้ว่า "ความยุติธรรม" คืออะไร

แต่เป็นเรื่องการพยายามอย่างทุกทางของคนที่เป็นอภิสิทธิชนทั้งหลายยที่จะทำลาย "ความยุติธรรม" และดึงให้มันเอียงมาอยู่ข้างตัวเองให้มากที่สุด

การจะสู้ให้ "ความยุติธรรม" มันมีมาตรฐานเดียว จะสำเร็จก็ต่อเมื่อทั้งสังคมยอมรับว่าประเทศชาติเป็นของประชาชนทุกคนร่วมกันและอย่างเท่าเทียมกัน
-------------------------------
ลองดูตัวอย่างจากคดีลูกอภิสิทธิชน
คดีหมูแฮมและคดีแพรวาฮะ

คดีหมูแฮม
http://news.mthai.com/headline-news/222035.html

คดีแพรวา
http://news.ch7.com/detail/3493/ญาติผู้ตายพอใจคำตัดสินคดี_แพรวาขับรถชน_9_ศพ.html
* * *

(5)

จะตรวจสอบว่าสังคมไทยมันแฟร์และปกติหรือไม่ ง่ายนิดเดียว ด้วยการลอง

1) ถามคำถามแบบเดียวกับที่ทำกับนักการเมือง หรือ 
2) กระทำแบบเดียวกับที่ทำกับนักการเมือง หรือกับทหาร หรือกับศาลก็ได้อ่ะ กับ "ในหลวงและสมาชิกราชวงศ์" ดูซิ ว่าทำแบบเดียวกันได้หรือไม่?