อืม เห็นแล้วเรื่อง อ. นิเทศ จุฬาฯ
สรุป คือ คนที่เป็นอาจารย์มหาวิทยาลัยคนหนึ่ง ที่สอนนิเทศ จุฬาฯ ทำยังไง๋ ยังไง ก็ไม่ดังเสียที เพราะไม่เด่นและดีพอ
พอเกษียรอายุ ก็เลยอยากเกาะกระแสดังด้วยการโพสต์ห่ามๆ เรื่องเพศ แต่ก็ยังไม่ดัง จนต้องขอพึ่งบารมีเกาะกระแสด่านายกว่าเป็น "กะหรี่" เพื่อจะได้ดังกับเขาบ้าง
ประเด็นที่น่าสนใจในเรื่องนี้ คือ ในประเทศที่เสรีภาพที่จะพูด มันแทบทำไม่ได้ในทุกด้าน
และในความตอแหลและดัดจริตทางศีลธรรม ทุกเรื่องที่ต่ำกว่าหัวนมและใต้สะดือเป็นเรื่อง "อุ๊ย ตาย ว๊าย กรี๊ด" หยาบ ทุเรศ หน้าด้าน ร่าน ดอกทอง เลว ชั่ว กูรับไม่ได้
แต่ขณะเดียวกัน ถ้าใช้ปากพูดเรื่องเหนือหัว หรือเรื่องฟ้าเมื่อไร มันก็จะเจอกับกระแส "หมิ่นเบื้องสูง" "ไม่ใช่คนไทย" "ขายชาติ" "ไม่รักชาติ" "เนรคุณแผ่นดิน" ฯลฯ
ไหนๆ พูดอะไรมันก็อันตรายทั้งนั้นในดินแดนไทย
คนจำนวนไม่น้อยจึงเลือกเล่นกระแสกับเรื่องใต้สะดือ และค่อยสอดส่องว่าคนจะใช้พื้นที่ ใต้คอและใต้สะดือทำอะไรกันบ้าง ที่ผิดไปจาก "ศีลธรรม" ที่พวกเขาดัดจริตสั่งสอนผู้คน
เออนะ จริงๆ ไม่ได้รู้สึกว่าต้องตอบโต้เพราะคนที่ทำนี้เป็นระดับอาจารย์จุฬาฯ
แต่มองมันอย่างเป็นอุทธาหรณ์ให้สังคมและครูบาอาจารย์คนอื่นๆ ในทุกระดับได้ดูไว้เป็นบทเรียนว่า อาจารย์มหาลัยไม่ใช่ผู้บรรลุเรื่องจริยธรรม และก็ไม่ควรทำตัวเป็นผู้คุมจริยธรรมนักศึกษา
ตอนอยู่มหาวิทยาลัยก็เห็นอาจารย์ืที่ไม่ได้เรื่องหลายคน และก็ร่วมกันกับเพื่อนๆ ร้องเรียนเกี่ยวกับอาจารย์ห่วยจนอาจารย์ถูกปลดด้วยซ้ำไป
กระนั้นก็รู้สึกว่า สังคมเสื้อแดงก็เปราะบางกันมากในเรื่องพิทักษ์ตัวบุคคล ในขณะที่ไม่ให้ความสำคัญเรื่อง "เสรีภาพในการแสดงความคิดเห็น" และการคิดคำนึงเรื่องเสรีภาพอย่างรอบด้าน อย่างที่อารยชนควรจะเป็น
แน่นอนตอนนี้แดงมีมวลชน และระดมกันง่ายกว่ากลุ่มอื่นในสังคมมากนัก
แต่แดงก็ควรจะตระหนักในอำนาจตรงนี้ และควรใช้มันอย่างสร้างสรค์ ยิ่งใช้ยิ่งได้รับความนับถือจากสังคม และควรจะถูกระดมกันด้วยเรื่องที่ไม่ใช่แค่ประเด็นกระแส แต่ควรจะปรามกระแส และดันรัฐบาลแดงให้ผลักดันเรื่อง เสรีภาพในการแสดงออกที่เหนือกว่าสะดือ และเหนือหัวกันได้ด้วย
อืม ... นะ... ถ้าแดงจะเล่นกับกระแส โกรธทุกคนที่ด่านายกยิ่งลักษณ์ในเรื่องเพศเรื่องเซ็กส์ ก็คงจะต้องไปฟ้องและถล่มไทยรัฐ ตามไปถล่มจุฬาฯ หรือจะต้องตามจะตามไปถล่มคนอีกหลายคนที่อาจจะขอเกาะกระแสดัง ไปด้วย เพราะรู้ว่าถ้าตั้งประเด็นด่าเรื่องเพศเรื่องเซ็กส์เกี่ยวกับนายกในดวงใจแล้วคนเสื้อแดงจะโกรธจนรับไม่ได้
การที่ สส. รัฐบาลรวมทั้งรมต. MICT พากันขานรับฟ้องร้องคนด่าว่านายก เพื่อประจบนางพญา และMICT ขานรับด้วยการประกาศ่าจะปิดกั้นมากขึ้นเรื่องการใช้เสรีภาพทางเนตให้ยิ่งขึ้นไปอีก
คนไทยจะมิยิ่งอยู่ในกะลาที่ไม่ใช่แค่กะลามะพร้าว แต่เป็นกะลาเหล็ก ที่ถูกควบคุมเสรีภาพการใช้ปาก ใช้หี ใช้ควย กันมากขึ้นไปอีกหรือ
คนไทยจะยิ่งอยู่ในโลกที่คนเล่นกับกระแส ใครอยากดังต้องด่านายก ด่าว่าคนดัง ว่าเป็นกะหรี่ ดอกทอง มีผัวตั้งแต่เด็ก และพากัน "เถื่อนและถ่อย" มากขึ้นไปอีกหรอกหรือ
พวกเราที่มีสติ ควรจะทำให้สังคมคิดกันมากขึ้นมิใช่หรือ และมาร่วมทำความเข้าใจเรื่องการเปิดใจยอมรับเรื่องเสรีภาพทางเพศ ทางรสนิยมเรื่องเพศกันให้มากขึ้นมิใช่หรือ
และส่งเสริมให้คนทั้งสังคมมันถกกันได้ทุกเรื่อง โดยไม่เอา "จริยธรรมดัดจริต" และ "คุณธรรมตอแหล" และ "ความเป็นไทยๆ ก๊อปปี้" มาบังคับใช้กับผู้คนมิดีกว่าหรือ
เรื่องเหยียดเพศแม่ว่า กะหรี่ หีร่าน เนี่ย ผู้หญิงไทยที่อยู่ในตำแหน่งสูงสุดของประเทศทั้งที่มาจากการเลือกตั้ง และมาจากการแต่งตั้ง ก็ถูกด่ากันถ้วนหน้าเกือบทุกคน
ปัญหาไม่ได้อยู่ที่ผู้หญิงที่ถูกด่านั้นเป็นหญิงเลว แต่อยู่ที่ภูมิความรู้และการใช้เหตุผลของคนไทยมันยังไม่พัฒนา ยังยึดโยงผู้หญิงกับเรื่องเพศ และยังไม่ยอมรับผู้หญิงในบทบาททางการเมือง
สรุป คือ คนที่เป็นอาจารย์มหาวิทยาลัยคนหนึ่ง ที่สอนนิเทศ จุฬาฯ ทำยังไง๋ ยังไง ก็ไม่ดังเสียที เพราะไม่เด่นและดีพอ
พอเกษียรอายุ ก็เลยอยากเกาะกระแสดังด้วยการโพสต์ห่ามๆ เรื่องเพศ แต่ก็ยังไม่ดัง จนต้องขอพึ่งบารมีเกาะกระแสด่านายกว่าเป็น "กะหรี่" เพื่อจะได้ดังกับเขาบ้าง
ประเด็นที่น่าสนใจในเรื่องนี้ คือ ในประเทศที่เสรีภาพที่จะพูด มันแทบทำไม่ได้ในทุกด้าน
และในความตอแหลและดัดจริตทางศีลธรรม ทุกเรื่องที่ต่ำกว่าหัวนมและใต้สะดือเป็นเรื่อง "อุ๊ย ตาย ว๊าย กรี๊ด" หยาบ ทุเรศ หน้าด้าน ร่าน ดอกทอง เลว ชั่ว กูรับไม่ได้
แต่ขณะเดียวกัน ถ้าใช้ปากพูดเรื่องเหนือหัว หรือเรื่องฟ้าเมื่อไร มันก็จะเจอกับกระแส "หมิ่นเบื้องสูง" "ไม่ใช่คนไทย" "ขายชาติ" "ไม่รักชาติ" "เนรคุณแผ่นดิน" ฯลฯ
ไหนๆ พูดอะไรมันก็อันตรายทั้งนั้นในดินแดนไทย
คนจำนวนไม่น้อยจึงเลือกเล่นกระแสกับเรื่องใต้สะดือ และค่อยสอดส่องว่าคนจะใช้พื้นที่ ใต้คอและใต้สะดือทำอะไรกันบ้าง ที่ผิดไปจาก "ศีลธรรม" ที่พวกเขาดัดจริตสั่งสอนผู้คน
เออนะ จริงๆ ไม่ได้รู้สึกว่าต้องตอบโต้เพราะคนที่ทำนี้เป็นระดับอาจารย์จุฬาฯ
แต่มองมันอย่างเป็นอุทธาหรณ์ให้สังคมและครูบาอาจารย์คนอื่นๆ ในทุกระดับได้ดูไว้เป็นบทเรียนว่า อาจารย์มหาลัยไม่ใช่ผู้บรรลุเรื่องจริยธรรม และก็ไม่ควรทำตัวเป็นผู้คุมจริยธรรมนักศึกษา
ตอนอยู่มหาวิทยาลัยก็เห็นอาจารย์ืที่ไม่ได้เรื่องหลายคน และก็ร่วมกันกับเพื่อนๆ ร้องเรียนเกี่ยวกับอาจารย์ห่วยจนอาจารย์ถูกปลดด้วยซ้ำไป
กระนั้นก็รู้สึกว่า สังคมเสื้อแดงก็เปราะบางกันมากในเรื่องพิทักษ์ตัวบุคคล ในขณะที่ไม่ให้ความสำคัญเรื่อง "เสรีภาพในการแสดงความคิดเห็น" และการคิดคำนึงเรื่องเสรีภาพอย่างรอบด้าน อย่างที่อารยชนควรจะเป็น
แน่นอนตอนนี้แดงมีมวลชน และระดมกันง่ายกว่ากลุ่มอื่นในสังคมมากนัก
แต่แดงก็ควรจะตระหนักในอำนาจตรงนี้ และควรใช้มันอย่างสร้างสรค์ ยิ่งใช้ยิ่งได้รับความนับถือจากสังคม และควรจะถูกระดมกันด้วยเรื่องที่ไม่ใช่แค่ประเด็นกระแส แต่ควรจะปรามกระแส และดันรัฐบาลแดงให้ผลักดันเรื่อง เสรีภาพในการแสดงออกที่เหนือกว่าสะดือ และเหนือหัวกันได้ด้วย
อืม ... นะ... ถ้าแดงจะเล่นกับกระแส โกรธทุกคนที่ด่านายกยิ่งลักษณ์ในเรื่องเพศเรื่องเซ็กส์ ก็คงจะต้องไปฟ้องและถล่มไทยรัฐ ตามไปถล่มจุฬาฯ หรือจะต้องตามจะตามไปถล่มคนอีกหลายคนที่อาจจะขอเกาะกระแสดัง ไปด้วย เพราะรู้ว่าถ้าตั้งประเด็นด่าเรื่องเพศเรื่องเซ็กส์เกี่ยวกับนายกในดวงใจแล้วคนเสื้อแดงจะโกรธจนรับไม่ได้
การที่ สส. รัฐบาลรวมทั้งรมต. MICT พากันขานรับฟ้องร้องคนด่าว่านายก เพื่อประจบนางพญา และMICT ขานรับด้วยการประกาศ่าจะปิดกั้นมากขึ้นเรื่องการใช้เสรีภาพทางเนตให้ยิ่งขึ้นไปอีก
คนไทยจะมิยิ่งอยู่ในกะลาที่ไม่ใช่แค่กะลามะพร้าว แต่เป็นกะลาเหล็ก ที่ถูกควบคุมเสรีภาพการใช้ปาก ใช้หี ใช้ควย กันมากขึ้นไปอีกหรือ
คนไทยจะยิ่งอยู่ในโลกที่คนเล่นกับกระแส ใครอยากดังต้องด่านายก ด่าว่าคนดัง ว่าเป็นกะหรี่ ดอกทอง มีผัวตั้งแต่เด็ก และพากัน "เถื่อนและถ่อย" มากขึ้นไปอีกหรอกหรือ
พวกเราที่มีสติ ควรจะทำให้สังคมคิดกันมากขึ้นมิใช่หรือ และมาร่วมทำความเข้าใจเรื่องการเปิดใจยอมรับเรื่องเสรีภาพทางเพศ ทางรสนิยมเรื่องเพศกันให้มากขึ้นมิใช่หรือ
และส่งเสริมให้คนทั้งสังคมมันถกกันได้ทุกเรื่อง โดยไม่เอา "จริยธรรมดัดจริต" และ "คุณธรรมตอแหล" และ "ความเป็นไทยๆ ก๊อปปี้" มาบังคับใช้กับผู้คนมิดีกว่าหรือ
* * *
ปัญหาไม่ได้อยู่ที่ผู้หญิงที่ถูกด่านั้นเป็นหญิงเลว แต่อยู่ที่ภูมิความรู้และการใช้เหตุผลของคนไทยมันยังไม่พัฒนา ยังยึดโยงผู้หญิงกับเรื่องเพศ และยังไม่ยอมรับผู้หญิงในบทบาททางการเมือง