27 เม.ย. 13 (4)

คนไทยเนี่ยชมคนง่าย และก็ด่า และถึงขั้นลุกมาทำร้ายคนคิดต่าง (โดยเฉพาะถ้าเป็นคนที่ดูด้อยกว่า) กันง่ายจริงๆ

กูเจอคนฟินน์เข้าไป เข้าใจเลยว่าการสร้างประเทศรัฐสวัดิการ คนทุกคนเท่ากันนี้ คนต้องระวังและรอบคอบกันมากๆ และต้องอ่อนไหวกับเรื่องวิถีอภิสิทธิชนกันมากๆ ด้วย

นึกไม่ออกว่าคนที่จะจะสามารถพูดคำว่า "มึงรู้จักกูไหม" "มึงรู้ไหมว่าพ่อกูเป็นใคร" ได้ไหมที่นี่ ... แต่ก็ไม่เคยเห็นนะ และคิดว่าคำเหล่านี้ต้องถูกลบหายไปเลยจากหน่วยความจำกันเลยทีเดียวล่ะฮะ

(แอบไปดูเรื่องคดี สส. ของเขานี่มีบันทึกคดีเล็กคดีน้อย ถูกตัดสินลงโทษประเภทคดี เมาแล้วขับ ทะเลาะกับเมีย และเรื่องจราจรกันหลายคนฮะ ... เมืองไทยไม่มีทาง สส.เจอคดีเล็กๆ แบบนี้แน่ ตำรวจเห็นก็ต้องปล่อยไปหมดไม่บันทึกเป็นหลักฐานและส่งฟ้องศาลกันแน่ๆ กับคดีแบบนี้)

คนในประเทศนี้จึงมักจะชมกันยาก เป็นเพื่อนกันยาก และก็ตัดสินใจอะไรกันยาก เพราะตัดสินใจอะไรแล้ว ผลมันจะผูกพันคนทั้งหมดไปด้วย

การพูดเรื่องเข้าหานักการเมือง เข้าหาข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ เข้าหาเจ้านายให้ช่วยเรื่องนี้นิด เรื่องนั้นหน่อย นี่ยากจริงๆ ฮะ ... และคนก็ไม่ทำกันง่ายๆ ด้วย

ขณะเดียวกันความมั่นคงในชีวิตภายใต้กฎกติกาเดียวกัน มันก็มีมาตรฐานสูงกว่าประเทศที่มีหลายชนชั้น มากอภิสิทธิชน เยอะทีเดียวเหมือนกัน

อาทิ ประเด็นเรื่องคนต่างแดนไปเดินบนถนนแล้วถูกตำรวจเรียกตรววจและรีดไถง่ายๆ แบบเมืองไทยนี่ลืมไปเลยที่ประเทศนี้

กูอยู่มา 3 ปีตะลอนหลายประเทศในยุโรป ไม่เคยถูกเรียกตรวจบัตรหรือพาสปอร์ตแม้แต่ครั้งเดียว

คนที่ไม่ใช่อภิสิทธิชนจะอยู่ง่ายและจะชอบประเทศแบบนี้ฮะ

แต่คนที่เป็นอภิสิทธิชนจนเคยตัว จะรู้สึกอึดอัดแน่นอนกับประเทศที่อะไรมันตามช่อง ตามแถว ตามกฎกติกาแบบนี้

แหม เจ้าไทยทำไมยังไม่เคยเสด็จมาเที่ยวประเทศสาธารณรัฐฟินแลนด์กับเขาสักที กูอยากจะไปยืนถือป้าย No 112 รับเสด็จจะแย่อยู่แล้ว