อ่านประวัติดาราหญิงคนหนึ่งที่ชอบ แล้วสะเทือนใจไปด้วย เพราะถูกพ่อรังแกทางเพศตั้งแต่เด็ก เธอไม่ญาติดีกับพ่อและแม่และพี่น้องเลยจนบัดนี้ และชีวิตเธอเสียสูญอยู่หลายครั้งเพราะผลกระทบจากการถูกทำร้ายทางจิตใจ
ทำให้นึกถึงเรื่องลูกสาวที่ถูกพ่อข่มขืน ในสังคมที่คำว่าพ่อใหญ่สุด ถ้าลูกสาวต้องถูกบังคับให้กราบพ่อที่ทำร้ายเธอ เธอจะยังรักพ่อลงไหม และจะทำอย่างไร
กูคิดว่าในหัวอกลูกสาวคงไม่กราบ แต่คงจะด่าพ่อว่า ไอ้พ่อหัวควย! มึงออกไปจากชีวิตกูเลย!
----------------
จิตวิทยาที่ทำให้คนกลัวจากพวกเจ้าลัทธิทั้งหลาย โดยเฉพาะพวกเจ้าพ่อ เจ้าแม่ ที่หากินจากการบริจาคของเหล่าสาวกและบริวาร คือ การอ้างความศักดิ์สิทธิ์ และการทำให้สาวกอยู่ในความกลัวเกรงไปด้วยในขณะเดียวกัน
สิ่งที่ประสบพบเห็นด้วยตัวเองหลายครั้ง พวกเครือข่ายเจ้าพ่อเจ้าแม่เหล่านี้มักจะใช้จิตวิทยาว่า "ท่านพ่อ" "ท่านแม่" มีญาณขั้นสูง มีตาทิพย์ หูทิพย์ ใครนินทาอะไรลับหลัง หรือทำอะไรที่เป็นการลบหลู่ลับหลัง จะต้องมีอันเป็นไปในสามวันเจ็ดวัน
และพวกเจ้าพ่อเจ้าแม่เหล่านี้จะมีผู้อารักขาที่น่าเกรงขาม ทำตัวกึงมาเฟีย คุกคามชาวบ้านรอบอาณาบริเวณให้อยู่ในความกลัวเกรง และพื้นที่แห่งสิ่งศักดิ์สิทธิ์ก็ขยายมากขึ้นเรื่อยๆ บีบซื้อที่ชาวบ้าน
อาณาเขตของท่านพ่อ ท่านแม่ เหล่านั้นก็มีไว้เพื่อคนไกล เดินทางมากราบไหว้บูชา และโครงการการสร้างสิ่งศักดิ์สิทธิ์เพื่อเป็นเหตุผลในการเรี่ยไรเงิน และให้คนกราบไหว้บูชา ก็ตามมาไม่หยุดย่อน มากน้อยแค่ไหน หรือใหญ่โตที่สุดในโลกแค่ไหน ก็ขึ้นอยู่กับความมีชื่อเสียงของเจ้าลัทธิ
คนจนที่ไม่มั่นคง คนชั้นกลางมีเงินที่หวาดผวา จึงถูกรีดเงินออกจากกระเป๋าเข้าสู่แก๊งค้าความกลัวเหล่านี้ มากกว่าการจะใช้เงินบริจาคเข้ามูลนิธิเพื่อใช้พัฒนาประเทศเช่นนี้แล ...
ไม่ใช่ด้วยแรงบุญ แต่เป็นด้วยแรงบาป และความกลัว!
ลองเอาชื่อเราไปใส่แทน สมยศ ดารณี สุรชัย ธันย์ฐวุฒิ ดูซิ แล้วจะเข้าใจว่าทำไมเราต้องรณรงค์เรื่องปล่อยนักโทษ 112 และเรียกร้องยกเลิกมาตรา 112
เพราะถ้าไม่รณรงค์ หรือถ้าไม่ร่วมส่งเสียง ก็ไม่รู้ว่าจะต้องรณรงค์เอานักโทษ 112 อีกกี่คน อีกกี่เจนเนเรชั่นออกจากคุก และจะอีกนานกี่ปี (ห้าปี สิบปี หรือยี่สิบปี?)
หรืออาจจะต้องรณรงค์เอา "ตัวเราเอง" ออกจากคุกบ้าเหล่านี้ด้วยหรือไม่!
ศตวรรษที่ 21 แล้ว จะปล่อยให้รัฐบาลนิ่งเฉย และปล่อยให้วังไม่พูดอะไรเลยเรื่องนี้ไปได้อีกกี่ปี!
--------------
ถ้าคดีสมยศแพ้เขาอาจจะถูกตัดสินจำคุกสูงสุดได้ถึง 30 ปี ซึ่งมันจะส่งผลกระทบต่อการเรียกร้องให้รัฐแก้ไขหรือยกเลิกมาตรา 112 อย่างแรง เพราะรัฐบาลจะไม่ฟังเสียงทักท้วงและเรียกร้องให้ยกเลิกมากขึ้น
และกฎหมายตัวนี้จะถูกใช้กับประชาชนได้มากขึ้น และการจะสู้เพื่อความถูกต้องจากคดี 112 ในกระบวนการทางกฎหมายในประเทศไทยจะไม่มีทางทำได้เลย นอกจาก "ผิด" สถานเดียว
พี่สมยศกับดารณี เป็นสองคนที่เจอ 112 แล้วไม่ขอรับผิดและขอพระราชทานอภ้ยโทษ แต่ขอให้ดำเนินไปตามกระบวนการยุติธรรม
วันที่ 23 มกราคม จึงสำคัญมากกับพวกเราทุกคน
พี่สมยศแพ้ ก็เท่ากับกฎหมายตัวนี้จะถูกใช้รังแกประชาชนอย่างไรก็ได้ และทางออกของผู้ที่ถูกมาตรานี้ 112 ก็มีเพียงแต่ก้มหน้ายอมรับผิดและขอพระราชทานอภัยโทษ หรือไม่ก็ต้องทิ้งทุกอย่างในเมืองไทย หนีออกมาเผชิญชะตากรรมที่ต่างแดน เท่านั้น
คดีของสมยศ จึงไม่ใช่เรื่องส่วนบุคคล แต่มันเรื่องการใช้อำนาจรัฐเพื่อกดหัวประชาชนโดยรวม
ทำกับสมยศได้ ก็เท่ากับทำกับทุกคนได้เช่นเดียวกัน!
---------------
ถ้าขบวนการสหภาพแรงงานไทยเลิกหนุนพันธมิตร และจัดกิจกรรมรณรงค์และเดินขบวนขนาดใหญ่เพื่อเรียกร้องปล่อยตัวสมยศ พฤกษาเกษมสุข และยกเลิกมาตรา 112
เราก็คงจะมีความหวังกับขบวนการแรงงานไทยได้มากขึ้นว่า จะปรับตัวเป็นหนึ่งในขบวนการคนชั้นล่าง ที่ปกป้องสิทธิประโยชน์ของคนชั้นล่างอย่างแท้จริง!
---------------
Thai Labour Campaign (Notes) on Friday, 11 January 2013 at 16:58
เรายังต้องการแรงสนับสนุนอันทรงพลังของท่านก่อนจะมีการอ่านคำพิพากษาคดีสมยศในวันที่ 23 มกราคม พ.ศ. 2556 ซึ่งอาจถูกตัดสินจำคุกนานถึง 30 ปี
ด้วยการลงลายมือชื่อในจดหมายเปิดผนึกเรียกร้องให้ยกฟ้องคดีสมยศ ภายในวันที่ 16 มกราคม พ.ศ. 2556 และจดหมายนี้จะถูกส่งไปยังนายกรัฐมนตรีและเจ้าหน้าที่รัฐกระทรวง หน่วยงานที่เกี่ยวข้องในวันที่ 17 มกราคม พ.ศ. 2556
เรายืนยันว่าสมยศบริสุทธิ์และกฎหมายหมิ่นพระบรมเดชานุภาพละเมิดสิทธิเสรีภาพในการแสดงออก บั่นทอนประชาธิปไตยในประเทศไทย
โปรดลงลายมือชื่อมาที่พัชณีย์ อีเมล์ patchanee@thailabour.org
ขอบคุณอีกครั้ง
สิ่งที่ประสบพบเห็นด้วยตัวเองหลายครั้ง พวกเครือข่ายเจ้าพ่อเจ้าแม่เหล่านี้มักจะใช้จิตวิทยาว่า "ท่านพ่อ" "ท่านแม่" มีญาณขั้นสูง มีตาทิพย์ หูทิพย์ ใครนินทาอะไรลับหลัง หรือทำอะไรที่เป็นการลบหลู่ลับหลัง จะต้องมีอันเป็นไปในสามวันเจ็ดวัน
และพวกเจ้าพ่อเจ้าแม่เหล่านี้จะมีผู้อารักขาที่น่าเกรงขาม ทำตัวกึงมาเฟีย คุกคามชาวบ้านรอบอาณาบริเวณให้อยู่ในความกลัวเกรง และพื้นที่แห่งสิ่งศักดิ์สิทธิ์ก็ขยายมากขึ้นเรื่อยๆ บีบซื้อที่ชาวบ้าน
อาณาเขตของท่านพ่อ ท่านแม่ เหล่านั้นก็มีไว้เพื่อคนไกล เดินทางมากราบไหว้บูชา และโครงการการสร้างสิ่งศักดิ์สิทธิ์เพื่อเป็นเหตุผลในการเรี่ยไรเงิน และให้คนกราบไหว้บูชา ก็ตามมาไม่หยุดย่อน มากน้อยแค่ไหน หรือใหญ่โตที่สุดในโลกแค่ไหน ก็ขึ้นอยู่กับความมีชื่อเสียงของเจ้าลัทธิ
คนจนที่ไม่มั่นคง คนชั้นกลางมีเงินที่หวาดผวา จึงถูกรีดเงินออกจากกระเป๋าเข้าสู่แก๊งค้าความกลัวเหล่านี้ มากกว่าการจะใช้เงินบริจาคเข้ามูลนิธิเพื่อใช้พัฒนาประเทศเช่นนี้แล ...
ไม่ใช่ด้วยแรงบุญ แต่เป็นด้วยแรงบาป และความกลัว!
* * *
ลองเอาชื่อเราไปใส่แทน สมยศ ดารณี สุรชัย ธันย์ฐวุฒิ ดูซิ แล้วจะเข้าใจว่าทำไมเราต้องรณรงค์เรื่องปล่อยนักโทษ 112 และเรียกร้องยกเลิกมาตรา 112
เพราะถ้าไม่รณรงค์ หรือถ้าไม่ร่วมส่งเสียง ก็ไม่รู้ว่าจะต้องรณรงค์เอานักโทษ 112 อีกกี่คน อีกกี่เจนเนเรชั่นออกจากคุก และจะอีกนานกี่ปี (ห้าปี สิบปี หรือยี่สิบปี?)
หรืออาจจะต้องรณรงค์เอา "ตัวเราเอง" ออกจากคุกบ้าเหล่านี้ด้วยหรือไม่!
ศตวรรษที่ 21 แล้ว จะปล่อยให้รัฐบาลนิ่งเฉย และปล่อยให้วังไม่พูดอะไรเลยเรื่องนี้ไปได้อีกกี่ปี!
--------------
ถ้าคดีสมยศแพ้เขาอาจจะถูกตัดสินจำคุกสูงสุดได้ถึง 30 ปี ซึ่งมันจะส่งผลกระทบต่อการเรียกร้องให้รัฐแก้ไขหรือยกเลิกมาตรา 112 อย่างแรง เพราะรัฐบาลจะไม่ฟังเสียงทักท้วงและเรียกร้องให้ยกเลิกมากขึ้น
และกฎหมายตัวนี้จะถูกใช้กับประชาชนได้มากขึ้น และการจะสู้เพื่อความถูกต้องจากคดี 112 ในกระบวนการทางกฎหมายในประเทศไทยจะไม่มีทางทำได้เลย นอกจาก "ผิด" สถานเดียว
พี่สมยศกับดารณี เป็นสองคนที่เจอ 112 แล้วไม่ขอรับผิดและขอพระราชทานอภ้ยโทษ แต่ขอให้ดำเนินไปตามกระบวนการยุติธรรม
วันที่ 23 มกราคม จึงสำคัญมากกับพวกเราทุกคน
พี่สมยศแพ้ ก็เท่ากับกฎหมายตัวนี้จะถูกใช้รังแกประชาชนอย่างไรก็ได้ และทางออกของผู้ที่ถูกมาตรานี้ 112 ก็มีเพียงแต่ก้มหน้ายอมรับผิดและขอพระราชทานอภัยโทษ หรือไม่ก็ต้องทิ้งทุกอย่างในเมืองไทย หนีออกมาเผชิญชะตากรรมที่ต่างแดน เท่านั้น
คดีของสมยศ จึงไม่ใช่เรื่องส่วนบุคคล แต่มันเรื่องการใช้อำนาจรัฐเพื่อกดหัวประชาชนโดยรวม
ทำกับสมยศได้ ก็เท่ากับทำกับทุกคนได้เช่นเดียวกัน!
---------------
ถ้าขบวนการสหภาพแรงงานไทยเลิกหนุนพันธมิตร และจัดกิจกรรมรณรงค์และเดินขบวนขนาดใหญ่เพื่อเรียกร้องปล่อยตัวสมยศ พฤกษาเกษมสุข และยกเลิกมาตรา 112
เราก็คงจะมีความหวังกับขบวนการแรงงานไทยได้มากขึ้นว่า จะปรับตัวเป็นหนึ่งในขบวนการคนชั้นล่าง ที่ปกป้องสิทธิประโยชน์ของคนชั้นล่างอย่างแท้จริง!
---------------
Thai Labour Campaign (Notes) on Friday, 11 January 2013 at 16:58
เรายังต้องการแรงสนับสนุนอันทรงพลังของท่านก่อนจะมีการอ่านคำพิพากษาคดีสมยศในวันที่ 23 มกราคม พ.ศ. 2556 ซึ่งอาจถูกตัดสินจำคุกนานถึง 30 ปี
ด้วยการลงลายมือชื่อในจดหมายเปิดผนึกเรียกร้องให้ยกฟ้องคดีสมยศ ภายในวันที่ 16 มกราคม พ.ศ. 2556 และจดหมายนี้จะถูกส่งไปยังนายกรัฐมนตรีและเจ้าหน้าที่รัฐกระทรวง หน่วยงานที่เกี่ยวข้องในวันที่ 17 มกราคม พ.ศ. 2556
เรายืนยันว่าสมยศบริสุทธิ์และกฎหมายหมิ่นพระบรมเดชานุภาพละเมิดสิทธิเสรีภาพในการแสดงออก บั่นทอนประชาธิปไตยในประเทศไทย
โปรดลงลายมือชื่อมาที่พัชณีย์ อีเมล์ patchanee@thailabour.org
ขอบคุณอีกครั้ง
จดหมายเปิดผนึก
ถึง
ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี
สำนักนายกรัฐมนตรี ทำเนียบรัฐบาล
ถ.พิษณุโลก เขตดุสิต
กรุงเทพฯ 10300
วันที่ 11 มกราคม 2556
เรื่อง กระบวนการยุติธรรมไทยละเมิดสิทธิของสมยศ พฤกษาเกษมสุข นักปกป้องสิทธิมนุษยชนและบรรณาธิการ
เรียน นายกรัฐมนตรี
พวกเรา ที่ลงชื่อแนบท้ายจดหมายเปิดผนึกฉบับนี้ ทั้งที่เป็นปัจเจกบุคคลและองค์กรภาคประชาชนในประเทศไทยและทั่วโลก เขียนถึงท่านอีกครั้งเพื่อกระตุ้นเตือนประเทศไทยให้เคารพหลักกฎหมายสิทธิมนุษยชนสากลและปกป้องเสรีภาพในการแสดงออก ด้วยการหยุดกระบวนการยุติธรรมที่ละเมิดนายสมยศ พฤกษาเกษมสุข และปล่อยตัวเขาโดยไม่มีเงื่อนไขและโดยเร็วที่สุด สมยศผู้เป็นบิดาของบุตรและธิดาสองคนถูกคุมขังมาเป็นเวลา 21 เดือนติดต่อกันด้วยข้อหาละเมิดกฎหมายหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ จากการตีพิมพ์บทความเสียดสีการเมือง 2 บทความลงในวารสารที่เขาเป็นบรรณาธิการ
คณะทำงานของสหประชาชาติว่าด้วยการกักขังตามอำเภอใจ พิจารณาแล้วว่า การคุมขังสมยศเป็นการกระทำตามอำเภอใจและละเมิดกฎหมายสากล จึงขอเรียกร้องให้ปล่อยตัวเขา นักวิชาการ นักกิจกรรม ครอบครัวที่ได้รับผลกระทบจากกฎหมายหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ และเพื่อนร่วมงานของสมยศได้เรียกร้องท่านให้ปล่อยตัวเขาหลายครั้ง เรายังคงต้องการตอกย้ำว่า การที่ศาลปฏิเสธสิทธิในการประกันตัวถึง 12 ครั้งล่าสุดเป็นการกระทำที่ขัดกับหลักการสันนิษฐานว่าจำเลยยังเป็นผู้บริสุทธิ์ รัฐบาลจึงควรเคารพสิทธิตามกฎหมายรัฐธรรมนูญที่ให้สิทธิในการประกันตัว สอดคล้องกับมาตรฐานสากลว่าด้วยการพิจารณาคดีอย่างเป็นธรรม
เสียงคัดค้านการใช้กฎหมายหมิ่นพระบรมเดชานุภาพไปในทางที่ผิดในประเทศดังขึ้นทุกๆ วันและการจัดการคดีสมยศถือว่าเป็นบททดสอบรัฐบาลว่าเคารพต่อหลักนิติรัฐและหลักการประชาธิปไตยหรือไม่
การพิพากษาคดีสมยศจะมีขึ้นในวันที่ 23 มกราคม 2556 ณ ศาลอาญา รัชดา เรายืนยันว่าสมยศไม่สมควรถูกจับ สิทธิในการแสดงออกไม่ว่าเขาจะมีความคิดเห็นทางการเมืองเป็นเช่นไรควรได้รับการปกป้องโดยกฎหมายรัฐธรรมนูญและข้อตกลงสากลว่าด้วยสิทธิพลเมืองและสิทธิทางการเมืองที่ผูกมัดประเทศไทย ไม่ว่าทั้งสองบทความที่เป็นข้อกล่าวหาจับกุมสมยศถูกมองว่าเป็นการทำผิดกฎหมายอาญา แต่ก็เป็นที่น่าสงสัยอย่างมาก สิ่งที่ควรทำมากกว่าการล่าแม่มดคือการประกันให้มีพื้นที่เปิดและอิสระในการถกเถียงแลกเปลี่ยนประเด็นการเมืองและประเด็นผลประโยชน์ของประชาชน เพราะจะช่วยลดความตึงเครียดในสังคมและนำไปสู่การหาทางออกให้แก่สังคม
การทำให้คำปราศรัยทางการเมืองเป็นเรื่องผิดกฎหมายอาญาและการดำเนินคดีกับบรรณาธิการไม่เป็นการเคารพต่อสิทธิมนุษยชน บ่อยครั้งประเทศไทยแสดงตัวในเวทีสากล โดยเฉพาะเป็นประเทศที่ต้องการที่นั่งในสภาความมั่นคงของสหประชาชนและเป็นสมาชิกสภาสิทธิมนุษยชนด้วย ครั้งหนึ่งประเทศไทยอ้างว่าเป็นประชาธิปไตยและเป็นหนึ่งในประเทศแถบอาเซี่ยนที่ก้าวหน้าที่สุด แต่การใช้กฎหมายไปในทางที่ผิด จับกุมพลเมืองอย่างสมยศได้บั่นทอนความน่าเชื่อถือของประเทศไทย และบั่นทอนความพยายามที่จะแยกตัวเองออกจากรัฐอำนาจนิยมในภูมิภาคนี้
เรายังหวังว่ารัฐบาลจะตระหนักถึงความสำคัญของสิทธิมนุษยชนและสามารถที่จะหยุดยั้งความอยุติธรรมที่กระทำต่อประชาชนได้ ด้วยเหตุนี้เราขอให้ท่านและฝ่ายบริหาร รวมทั้งกลไกรัฐทั้งหมดหามาตรการที่เหมาะสมที่จะหยุดการคุมขังสมยศโดยทันที และให้เขาสามารถใช้สิทธิพื้นฐานได้ โดยปราศจากการถูกแก้แค้นหรือถูกโต้ตอบกลับไปจนถึงระดับศาล
ขอขอบคุณท่านที่พิจารณาข้อเรียกร้องของเราอย่างจริงจัง เราหวังว่าจะได้รับการตอบกลับจากท่านและแสดงออกถึงการเคารพเสรีภาพในการแสดงออก
ด้วยความนับถือ