ถ้าให้เลือกได้ กูชอบและอยากให้ระบอบการเมืองไทยเป็นระบอบ "สาธารณรัฐ โดยมีประธานาธิบดีเป็นประมุขประเทศ" มากกว่าระบอบ "ประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข"
แต่ในสถานการณ์ที่เลือกไม่ได้ กูก็ขอรณรงค์อยู่ในขอบข่ายให้ การสืบทอดอำนาจประมุขทำกันเสียที
และก็รณรงค์ให้มีการปรับเปลี่ยนราชประเพณีที่ล้าสมัย ป่าเถื่อน และไม่โปร่งใสทั้งหมด
ไม่ว่าจะยกเลิก มาตรา 112
ปรับปรุงรัฐธรรมนูญหมวดกษัตริย์ ยกเลิกองคมนตรี
ยุบกองทหารรักษาพระองค์
เลิกนโยบายและการให้เงินอุดหนุนการอวย 24 ชั่วโมง
การรับบริจาคให้อยู่ในขอบข่ายเช่นเดียวกับพรรคการเมือง
ยกเลิกราชประเพณีที่ฟุ้มเฟื่อย
หยุดปิดกั้นถนนขบวนเสด็จอย่างพร่ำเพรื่อฯ
และอีกมากมายที่ล้าสมัยมากๆ
หลังจากนี้ถ้าประชาชนอยากให้เปิดการทำประชามติเลือกระบบการเมืองก็ให้จัดทำกันตามครรลองเช่นในหลายประเทศที่มีกษัตริย์เป็นประมุขทั้งหลาย
แนวทางนี้อาจจะใช้เวลาและช้า แต่ถ้าจะเปลี่ยนโครงสร้างการเมืองอย่างฉับพลัน ก็ต้องเลือกแนวทางปฏิวัติ ซึ่งใครจะเป็นคนทำและคนนำปฏิวัติเปลี่ยนระบอบล่ะ?
ไม่ว่าฟ้าชายจะไม่ป๊อปปูล่าเท่าไรก็ตาม แต่เมื่อทรงเป็นมกุฎราชกุมาร ตามกติกาการเมืองก็ควรจะขึ้นเป็นกษัตริย์ และกูก็จะยอมรับได้ ถ้ามีกระบวนการเสนอชชื่อผู้สืบราชบัลลังก์ใหม่ ที่ทำไปตามครรลองวิถี
แม้ว่ากูจะไม่ชอบฟ้าชายเลยก็ตาม แต่กูในฐานะเสียงเดียว แม้ไม่ชอบกูก็ยอมรับกติกา และสู้เพื่อบอกว่าไม่ชอบอย่างไรภายใต้เสรีภาพที่กูยึดถือ
เช่นเดียวกับที่กูไม่ชอบทักษิณเลย และเห็นว่านโยบายและกฎหมายหลายตัวที่ออกโดยทักษิณเป็นปัญหา
แต่ก็ก็ปฏิเสธแนวทางพันธมิตรและไม่เคยเหยียบไปยังที่ประชุมของพันธมิตรเลยแม้แต่ครั้งเดียว
และกูก็ลุกขึ้นมาออกประกาศต้านรัฐประหาร 19 กันยายน 2549 ทันทีเช่นกัน พร้อมกับเขียนหนังสือการเมืองไทยเล่มแรกในชีวิต "ไพร่สู้"
กูไม่ชอบผู้มีบทบาทนำทางการเมืองของไทยหลายคนในปัจจุบัน - ทั้งในสถาบันพระประมุข สถาบันการเมือง และกูไม่ชอบทหาร และคิดว่าต้องปฏิรูปทหารกันอย่างจริงจัง
แต่กูก็ไม่คิดจะล้มรัฐบาล ยืนยันว่ารัฐบาลต้องอยู่ครบเทอม และถ้ามีการทำรัฐประหารไม่ว่าจะด้วยกองทัพหรือศาลรัฐธรรมนูญ อันเป็นการล้มกติกาประชาธิปไตยด้วยวิถีเผด็จการ กูก็จะต้านทันที
กูยอมอดทน อดกลั้นอยู่กับความคิดต่าง และนำเสนอข้อคิดเห็นอย่างมีเหตุมีผล มุ่งวิจารณ์ปัญหาที่ตัวระบบ มากกว่าเล่นจิกกัดตัวบุคคล หรือมองการเมืองแค่ตัวบุคคลเช่นที่หลายกลุ่มในไทยเป็นกันอยู่ตอนนี้
นี่คือความคิด ความเชื่อเรื่องการเมืองกู ของลูกชาวนา "คนโง่" ในสายตา "ผู้ดีเมืองกรุง"
คนที่ถูกทั้งคนรักทักษิณและคนรักเจ้าต่อว่าประจานอย่างสาดเสียเทเสียว่าเป็น "กะหรี่พัทยา มาขายหีอยู่เยอรมัน"
และที่แน่ๆ คือ พรรคประชาธิปัตย์โกงกินยาวนานกว่าพรรคเพื่อไทยและทุกพรรคการเมือง เพราะมีอายุพรรคยาวนานที่สุดในปัจจุบัน
และที่รู้แน่ๆ กว่าก็คือ กลุ่มอำนาจเก่าที่โกงกินประเทศไทยมายาวนานที่สุดคือผู้นำลัทธิ "ทหารในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว" มากดหัวประชาชนอย่างยาวนาน
ที่กินทั้งเงิน ทั้งโอกาสในการพัฒนาของประเทศชาติ และแถมยังกลืนกินชีวิตประชาชนคนไทยไปไม่น้อยเลยมาหลายสิบปี
แต่ในสถานการณ์ที่เลือกไม่ได้ กูก็ขอรณรงค์อยู่ในขอบข่ายให้ การสืบทอดอำนาจประมุขทำกันเสียที
และก็รณรงค์ให้มีการปรับเปลี่ยนราชประเพณีที่ล้าสมัย ป่าเถื่อน และไม่โปร่งใสทั้งหมด
ไม่ว่าจะยกเลิก มาตรา 112
ปรับปรุงรัฐธรรมนูญหมวดกษัตริย์ ยกเลิกองคมนตรี
ยุบกองทหารรักษาพระองค์
เลิกนโยบายและการให้เงินอุดหนุนการอวย 24 ชั่วโมง
การรับบริจาคให้อยู่ในขอบข่ายเช่นเดียวกับพรรคการเมือง
ยกเลิกราชประเพณีที่ฟุ้มเฟื่อย
หยุดปิดกั้นถนนขบวนเสด็จอย่างพร่ำเพรื่อฯ
และอีกมากมายที่ล้าสมัยมากๆ
หลังจากนี้ถ้าประชาชนอยากให้เปิดการทำประชามติเลือกระบบการเมืองก็ให้จัดทำกันตามครรลองเช่นในหลายประเทศที่มีกษัตริย์เป็นประมุขทั้งหลาย
แนวทางนี้อาจจะใช้เวลาและช้า แต่ถ้าจะเปลี่ยนโครงสร้างการเมืองอย่างฉับพลัน ก็ต้องเลือกแนวทางปฏิวัติ ซึ่งใครจะเป็นคนทำและคนนำปฏิวัติเปลี่ยนระบอบล่ะ?
* * *
แม้ว่ากูจะไม่ชอบฟ้าชายเลยก็ตาม แต่กูในฐานะเสียงเดียว แม้ไม่ชอบกูก็ยอมรับกติกา และสู้เพื่อบอกว่าไม่ชอบอย่างไรภายใต้เสรีภาพที่กูยึดถือ
เช่นเดียวกับที่กูไม่ชอบทักษิณเลย และเห็นว่านโยบายและกฎหมายหลายตัวที่ออกโดยทักษิณเป็นปัญหา
แต่ก็ก็ปฏิเสธแนวทางพันธมิตรและไม่เคยเหยียบไปยังที่ประชุมของพันธมิตรเลยแม้แต่ครั้งเดียว
และกูก็ลุกขึ้นมาออกประกาศต้านรัฐประหาร 19 กันยายน 2549 ทันทีเช่นกัน พร้อมกับเขียนหนังสือการเมืองไทยเล่มแรกในชีวิต "ไพร่สู้"
กูไม่ชอบผู้มีบทบาทนำทางการเมืองของไทยหลายคนในปัจจุบัน - ทั้งในสถาบันพระประมุข สถาบันการเมือง และกูไม่ชอบทหาร และคิดว่าต้องปฏิรูปทหารกันอย่างจริงจัง
แต่กูก็ไม่คิดจะล้มรัฐบาล ยืนยันว่ารัฐบาลต้องอยู่ครบเทอม และถ้ามีการทำรัฐประหารไม่ว่าจะด้วยกองทัพหรือศาลรัฐธรรมนูญ อันเป็นการล้มกติกาประชาธิปไตยด้วยวิถีเผด็จการ กูก็จะต้านทันที
กูยอมอดทน อดกลั้นอยู่กับความคิดต่าง และนำเสนอข้อคิดเห็นอย่างมีเหตุมีผล มุ่งวิจารณ์ปัญหาที่ตัวระบบ มากกว่าเล่นจิกกัดตัวบุคคล หรือมองการเมืองแค่ตัวบุคคลเช่นที่หลายกลุ่มในไทยเป็นกันอยู่ตอนนี้
นี่คือความคิด ความเชื่อเรื่องการเมืองกู ของลูกชาวนา "คนโง่" ในสายตา "ผู้ดีเมืองกรุง"
คนที่ถูกทั้งคนรักทักษิณและคนรักเจ้าต่อว่าประจานอย่างสาดเสียเทเสียว่าเป็น "กะหรี่พัทยา มาขายหีอยู่เยอรมัน"
* * *
กูไม่รู้ว่าพรรคประชาธิปัตย์ เพื่อไทย หรือพรรคชาติพัฒนา หรือพรรคการเมืองอื่นๆ ใครโกงกินมากหรือน้อยกว่ากัน แต่ที่รู้แน่ๆ คือ มันก็มีคนโกงกินทั้งสองพรรคใหญ่ และทุกพรรคเล็กนั่นล่ะและที่แน่ๆ คือ พรรคประชาธิปัตย์โกงกินยาวนานกว่าพรรคเพื่อไทยและทุกพรรคการเมือง เพราะมีอายุพรรคยาวนานที่สุดในปัจจุบัน
และที่รู้แน่ๆ กว่าก็คือ กลุ่มอำนาจเก่าที่โกงกินประเทศไทยมายาวนานที่สุดคือผู้นำลัทธิ "ทหารในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว" มากดหัวประชาชนอย่างยาวนาน
ที่กินทั้งเงิน ทั้งโอกาสในการพัฒนาของประเทศชาติ และแถมยังกลืนกินชีวิตประชาชนคนไทยไปไม่น้อยเลยมาหลายสิบปี