4 พ.ย. 13

ประชาธิปไตยเป็นเรื่องของความอดทนอดกลั้นต่อความคิดต่าง
แต่ก็ต้องยึดมั่นในหลักการเป็นสำคัญ ...

จะมาหักทุกหลักการเพื่อบอกว่าเพื่อหลักการ
มันเป็นความคิดสั้น ...

เพราะเมื่อเริ่มต้นผิดเสียแล้ว
ก็ยิ่งจะต้องพากันหักล้างความผิด

และเมื่อยิ่งล้างผิด
ก็ยิ่งห่างไกลจากหลักการและอุดมการณ์ประชาธิปไตยไปเรื่อยๆ ...

นี่ล่ะถึงยอมรับ พรบ. นิรโทษกรรมสุดซอยไม่ได้

* * *

มาตรา 112 ไม่ใช่เรื่องเมื่อเหลืองใช้เป็นอาวุธ แดงก็ควรใช้เป็นอาวุธบ้าง
เพราะมาตรานี้มันเหี้ยจริงๆ

ไม่ว่าใครก็ตามแค่โดยฟ้องเรื่องมาตรานี้

ก็อยู่ในความหวาดผวาแล้ว และต้องเตรียมหาช่องทางรับมือว่า ...

  1. กูจะได้ประกันตัวสู้คดีมั๊ย ... ส่วนใหญ่มันไม่ได้รับอนุญาตให้ประกันตัวถ้าไม่มีบารมีมากพอ 
  2. ถ้าไม่ให้ประกันตัว ถูกส่งเข้าคุก กูจะถูกคนในคุกยำและกลั่นแกล้งขนาดไหน
  3. ถ้าไม่อยากติดคุก กูจะต้องหนีคดีไปต่างประเทศ จะไปที่ไหนได้บ้าง และจะกินอยู่อย่างไร และจะต้องหนีกันกี่ปี
  4. พ่อแม่พี่น้อง ครอบครัว และเพื่อนฝูงเดือนร้อนไปด้วยแน่ๆ 

ไม่สนับสนุนฝ่ายไหนใช้มาตรา 112 กับใครทั้งนั้น

แต่เรียกร้องให้ ยกเลิกมาตรา 112 นี่ไปเลย

จะได้ไม่มีเครื่องมือบังคับมอบคลาน
และทำให้การต่อสู้กันทางการเมืองไทยมันอยู่บนฐานเสมอกันและเท่ากันได้บ้าง

ยกเลิก 112 เถอะ ประเทศจะ set+10 ทันที
* * * 

เรื่องนักการเมือง "คอรัปชั่น" นี่เป็นเหตุให้อ้างทำ "รัฐประหาร" กันมาทุกครั้ง

การต้านพรบ. นิรโทษกรรมครั้งนี้ อาจารย์มหาวิทยาลัยผู้สูงส่งทั้งหลายเห็นเฉพาะปัญหา "คอรัปชั่น" เท่านั้นหรือฮะ ...

ปัญหาเรื่องการทำลายหลักนิติรัฐด้วยรัฐประหาร การใช้ปืนฉีกรัฐธรรมนูญ การออกฎหมายนิรโทษกรรมของคณะรัฐประหาร การประกาศ "เขตกระสุนจริง" ให้ทหารสังหารหมู่ประชาชนกลางเมืองหลวง การจับประชาชนเข้าคุกเพราะการแสดงความคิดเห็นทางการเมือง เพราะ พรก. ความมั่นคง พรก. ฉุกเฉิน และด้วยมาตรา 112 ...

ปัญหาเหล่านี้ เป็นปัญหาใหญ่ทั้งนั้น ที่ส่งผลให้ "การคอรัปชั่น" มันไม่เคยสลายไปจากเมืองไทย ...

อาจารย์ทุกท่านพร้อมกันปิดตาเห็นปัญหาอื่นๆ จาก พรบ. นิรโทษกรรมและมุ่งเป้าไปที่ประเด็น "คอรัปชั่น" ประเด็นเดียวเท่านั้น

ทั้งๆ ที่มันเป็นผลพวงเกิดจากการ "นิรโทษกรรมรัฐประหาร"กันมาหลายครั้ง

นี่เป็นเรื่องที่น่าเป็นห่วงยิ่งฮะ ต่ออนาคตของนักศึกษาไทย

ม.ศิลปากร ร่วมกับ 14 มหาวิทยาลัยแถลงต้านร่าง กม.นิรโทษกรรม"ผู้ช่วยศาสตราจารย์ชัยชาญ ถาวรเวช" อธิการบดีมหาวิทยาลัยศิลปากร ร่วมกับอธิการบดี 13 สถาบันแถลงการณ์ต้านนิรโทษกรรมชี้เป็นร่างกม.สร้างมาตรฐานที่ไม่ถูกต้องให้สังคมไทยในที่ประชุมอธิบการบดีวาระพิเศษ โดยมีใจความว่า...แถลงการณ์ที่ประชุมอธิการบดี แห่งประเทศไทยตามที่ สภาผู้แทนราษฎร ได้มีมติเห็นชอบ ร่าง พระราชบัญญัตินิรโทษกรรม เมื่อวันที่ 31 ตุลาคม พ.ศ.2556 ที่มีเนื้อหาให้นิรโทษกรรมแก่บรรดาการกระทำทั้งหลายทั้งสิ้นของบุคคลหรือประชาชนที่เกี่ยวเนื่องกับการชุมนุมทางการเมือง การแสดงออกทางการเมือง ความขัดแย้งทางการเมือง หรือที่ถูกกล่าวหาว่าเป็นผู้กระทำความผิด โดยคณะบุคคล หรือองค์กรที่จัดตั้งขึ้นภายหลังการรัฐประหาร เมื่อวันที่ 19 กันยายน พ.ศ. 2549 รวมทั้ง องค์กรหรือหน่วยงานที่ดำเนินการในเรื่องดังกล่าวสืบเนื่องต่อมา ที่เกิดขึ้นระหว่าง พ.ศ.2547 - 8 สิงหาคม พ.ศ.2556 ไม่ว่าผู้กระทำจะได้กระทำในฐานะตัวการ ผู้สนับสนุน ผู้ใช้ให้กระทำ หรือผู้ถูกใช้ การบัญญัติดังกล่าวข้างต้นไม่เพียงแต่เป็นการยกเว้นความผิดและโทษให้แก่การกระทำในทางการเมืองเท่านั้น แต่ยังรวมถึงการกระทำในลักษณะการทุจริตคอรัปชั่นด้วย

ที่ประชุมอธิการบดีแห่งประเทศไทย เห็นว่า การที่ ร่าง พระราชบัญญัตินิรโทษกรรม มีเนื้อหาดังกล่าวข้างต้นเท่ากับเป็นการสร้างมาตรฐานที่ไม่ถูกต้องขึ้นในสังคมไทย เพราะจะทำให้เกิดความเข้าใจผิดว่า การทุจริตคอรัปชั่นมิใช่สิ่งร้ายแรง และในท้ายที่สุดก็สามารถหลุดพ้นจากความรับผิดได้ด้วยการนิรโทษกรรม การนิรโทษกรรม การกระทำความผิด ในเรื่องทุจริตคอรัปชั่นจะทำให้การต่อสู้กับปัญหาคอรัปชั่นในสังคมไทยในปัจจุบันไม่ประสบผลสำเร็จและจะเป็นตัวอย่างที่ไม่ดีให้กับการกระทำในลักษณะนี้ต่อไปในอนาคต

ที่ประชุมอธิการบดีแห่งประเทศไทย เห็นว่า การรณรงค์ต่อต้านทุจริตคอรัปชั่นเป็นเรื่องที่สำคัญ ดังจะเห็นได้จากการจัดโครงการ "บัณฑิตไทยไม่โกง" ขึ้น ที่ ที่ประชุมอธิการบดีแห่งประเทศไทยได้ดำเนินการต่อเนื่องมาตลอดปี พ.ศ.2556 การรณรงค์ดังกล่าว จะประสบความสำเร็จได้ดีต่อเมื่อมีตัวอย่างที่ดีที่แสดงให้เห็นว่า คนที่กระทำการทุจริตคอรัปชั่นจะต้องถูกลงโทษโดยไม่มีการนิรโทษกรรม

ที่ประชุมอธิการบดีแห่งประเทศไทย ดังมีรายนามต่อไปนี้ จึงขอคัดค้าน ร่าง พระราชบัญญัตินิรโทษกรรม ฉบับนี้ร่วมกัน
- ศาสตราจารย์ ดร.สมคิด เลิศไพฑูรย์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
- ผู้ช่วยศาสตราจารย์ นายแพทย์เฉลิมชัย บุญยะลีพรรณ อธิการบดีมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ
- ผู้ช่วยศาสตราจารย์ชัยชาญ ถาวรเวช อธิการบดีมหาวิทยาลัยศิลปากร
- ดร.กีร์รัตน์ สงวนไทร อธิการบดีมหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์
- ศาสตราจารย์ ดร.ประสาท สืบค้า อธิการบดีมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี
- รองศาสตราจารย์ ดร.ประดิษฐ์ วรรณรัตน์ อธิการบดีสถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์
- รองศาสตราจารย์ ดร.นายแพทย์ชัยเลิศ พิชิตพรชัย อธิการบดีมหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช
- รองศาสตราจารย์ ดร.กิตติชัย ไตรรัตน์ศิริชัย อธิการบดีมหาวิทยาลัยขอนแก่น
- รองศาสตราจารย์ นายแพทย์นิเวศน์ นันทจิต อธิการบดีมหาวิทยาลัยเชียงใหม่
- รองศาสตราจารย์ ดร.ศักรินทร์ ภูมิรัตน์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี
- รองศาสตราจารย์ ดร.สุวิทย์ เลากศิริวงศ์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยนครพนม
- ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.ศุภชัย สมัปปิโต อธิการบดีมหาวิทยาลัยมหาสารคาม
- ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.จำเนียร ยศราช อธิการบดีมหาวิทยาลัยแม่โจ้
- รองศาสตราจารย์ ดร.ชูศักดิ์ ลิ่มสกุล อธิการบดีมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์
ลงวันที่ 4 เดือน พฤศจิกายน พ.ศ. 2556


* * * 
การออกมาค้าน พรบ. นิรโทษกรรมของอีลีต พวกราชนิกูลและศักดินาหัวเก่า และพวกคณาจารย์มหาวิทยาลัยต่างๆ (ซึ่งก็คืออีลีต) สะท้อนให้เห็นว่า แม้การเคลื่อนไหวของคนเสื้อแดงในนามเพื่อประชาธิปไตย จะได้ใจผู้คนในสังคมมากพอสมควรก็ตาม

หรือ แม้แต่ชนชั้นสูงจะยอมรับยิ่งลักษณ์ก็ตาม ...

แต่นั่นไม่สามารถหักลบกลบหนี้ความเกลียดชังที่มีต่อ "ทักษิณ" ในหมู่อีลีตขุนนางเก่า

เมื่อทักษิณต้องการย้อนนิรโทษกรรมกลับไปยังปี 2547 ขบวนการต้านทักษิณ ก็กำลังจะพาสังคมกลับไปสู่การเมืองปี 2548

รู้สึกว่าถ้ามันเป็นแบบนี้ ที่ผ่านมา 6-7 ปี นี่กูเหนื่อยเปล่าใช่ไหมเนี่ย?


* * *


แหม ... ถูกแอบกัดว่า ไม่เข้าใจศาสนาพุทธ และคิดลบกับนักบวช (พระ)

อืม ... อืม ...เหตุผลที่จรรยาไม่ชอบเข้าวัด นอกจากไม่มีปัญญาขูดรีดเงินทองคนอื่น เพื่อเอามาใส่ซองสร้างพระพุทธรูปทองคำ หรือรูปปั้นที่สูงใหญ่ที่สุดในโลกแล้ว

ก็เพราะคิดบวกกับพระนี่ล่ะฮะ ...
ก็เพราะกลัวว่าจะไปสึกพระนี่ล่ะ ...นี่พูดจริงๆ นะ

แหม ... ก็เรื่องกำหนัดนี่ มันยิ่งห้าม มันก็เหมือนยิ่งยุ ยิ่งมีความอยากฮะ!!!!

ดังนั้นจึง ขออ่านพุทธศาสนาจากหนังสือต่อไปนะฮะ

เรื่องเข้าวัดเพื่อไปฟังพระเทศน์ให้ยอมก้มหัวให้โชคชะตา เพื่อต่อชะตา สะเดาะเคราะห์ และเสริมสร้างกิเลสทางวัตถุนี่ ... ไม่ขออนุโมทนาจริงๆ ฮะ