7 ก.ค. 13



ชอบภาพนี้จังค้าบบ 

สมัยกูอยู่มัธยมเมื่อยี่สิบกว่าปี มันยังไม่ถึงขนาดนี้นะ

มันมากเกินไปนะ
ไม่นาเชื่อว่าครูจะสอนให้นักเรียนกราบกันเช่นนี้
และรับได้กับการที่นักเรียนกราบพวกตนเช่นนี้ ...

รมต.กระทรวงศึกษาปฏิรูปพฤติกรรมและทำเนียบไม่เข้าท่าทั้งหลายของการศึกษาที่เถอะ

ทั้งเรื่องการมอบกราบ ชุดนักศึกษา การแต่งกาย ตลอดจนวินัยที่ไม่เข้าท่าทั้งหลาย

* * *

ถ้าดูแลนักสู้และผู้ได้รับผลกระทบทางการเมือง ด้วยระบบ แทนที่จะเป็น "ตามใจอาสาสมัคร" และ "ตามแต่จะพิจารณา"

ปัญหาหลายการร้องทุกข์ของนักโทษการเมืองเสื้อแดง ที่เดือดร้อนและไม่ได้รับความช่วยเหลือคงไม่เกิดขึ้น

และศรัทธาของพวกเขาที่มีต่อพรรคการเมืองที่พวกยอมพลีชีพ หรือยอมติดคุกให้ ก็คงจะไม่สั่นคลอน.

* * *

กรณีของนักสู้หลายคนที่เจอปัญหาเรื่องรายได้และการใช้ชีวิตกันอย่างลำบากที่เมืองไทย
ทั้งนักต่อสู้ นักกิจกรรมและนักโทษการเมืองที่ร้องเรียนเรื่องการไม่ได้รับการดูแลอยู่ตอนนี้ ...
มันเป็นปัญหาการเมืองนะฮะ ไม่ใช่ปัญหาเรื่องตัวบุคคล

นึกเปรียบเทียมกับประเทศสวัสดิการสูงที่สุดในโลกเช่น ฟินแลนด์ ...

ขนาดจรรยาไม่ได้รับสวัสดิการอะไรกับเขาที่นี่ แต่ก็เริ่มเห็นเรื่องระบบสวัสดิการการดูแลประชาชนของประเทศนี้พอสมควร ที่อยู่บนฐานคิดว่า "ประชาชนทุกคนควรได้รับการดูแลที่สมศักดิ์ศรีของการเป็นมนุษย์"

เพิ่งรู้เมื่อสองวันก่อนว่า ประเทศนี้ระดับของสวัสดิการสูงถึง 112 ระดับ (เมืองไทยมีอยู่แค่ 5 - 6 ประเภทก็ยกทักษิณเป็นเทวดากันแล้วฮะ) ที่ครอบคลุมตั้งแต่เกิดจนตายกันเลยทีเดียว

รวมทั้งไม่ต้องพูดถึงเรื่องสุขภาพ เงินอุดหนุนด้านการศึกษา เงินช่วยเหลือยากฉุกเฉิน รวมทั้งช่วยเรื่องการย้ายบ้าน (ระดับแสนบาทกันเลยทีเดียว) และยังมีแฟลตสวัสดิการให้กับคนไร้บ้านอีก ... และอื่นๆ อีกมากมาย

กูรู้จักนักสู้และศิลปินอิสระหลายคนที่นี่ที่ใช้ชีวิตทำงานสร้างสรรค์กันได้อย่างไม่ลำบากนัก เพราะการเข้าถึงเงินอุดหนุนสวัดิการช่วยสำหรับคนไม่มีอาชีพหลักหรือไม่รายได้ไม่ถึงเกณฑ์ ก็สามารถขอความช่วยเหลือได้ และก็เบี้ยเงินเลี้ยงดูเหล่านี้นี่ล่ะ ที่ช่วยให้พวกเขาทำงานเพื่อสังคมและศิลปะกันได้ อย่างไม่ลำบากตัวเองมากนัก

เนื่องจากเมืองไทยไม่สู้เรื่องสวัสดิการให้กับประชาชนอย่างเท่าเทียม การเมืองมันจึงถูกชี้นำไปสู่วิถี "ปูชนียบุคคล" และภายใต้การ "อุปภัมภ์" ของนายใหญ่กันอยู่เช่นนี้ และไม่สามารถก้าวพ้นจาก "การเมืองตัวบุคคล" ไปสู่ "การเมืองหลักการ" กันได้สักที

ประเด็นของเมืองไทยที่ต้องพูดกันมากขึ้น หรือตั้งคำถามกันมากขึ้นกับการใช้งบประมาณรัฐฯ ที่ไม่ใช้เงินกู้เงินมหาศาลมาเททิ้งไปกับการสร้างวัตถุ

คือ การต่อรองกันมากขึ้นกับรัฐบาล - ไม่ใช่ต่อรองกับทักษิณในฐานะนายใหญ่เท่านั้น

ในเรื่องการให้รัฐบาลจัดสรรงบประมาณ - พูดกันระดับว่าปีละกี่เปอร์เซ็นต์ของแผนงบประมาณแผ่นดินกันเลยทีเดียว - เพื่อนำมาใช้วางโครงสร้างพื้นฐานเรื่อง "สวัสดิการประชาชน" และดูแลประชาชน ที่ไม่ใช่แค่เรื่อง "สุขภาพ" กันมากขึ้นเรื่อยๆ

ที่ครอบคลุมทั้งเรื่อง ...

เงินหนุนช่วยฉุกเฉินเพื่อการสร้างตัว
เงินประกันการว่างงานประชาชน
เงินอุดหนุนเพื่อการสร้างอาชีพ
เงินบำนาญคนอายุ 65 ปีขึ้นไป (ทุกคน)
เบี้ยบำนาญจากการทำงาน
เงินเลี้ยงดูบุตร
เงินอุดหนุนการศึกษา
บ้านพักฉุกเฉิน
บ้านพักสวัสดิการ
การอุดหนุนเรื่องการเดินทาง
ปรับปรุงห้องสมุดประชาชน

และอีกมากมายนะฮะ

รัฐบาลไทยน่าจะส่งทีมงานมาดูเรื่องสวัสดิการที่ฟินแลนด์นะฮะ แทนที่จะหลบหลีกเลี่ยง (กันมาตลอด) และเลือกเส้นทางดูงานสวัสดิการในประเทศที่ยังไม่ได้วางระบบสวัสดิการอย่างครอบคลุม อาทิ เลือกไปดูงานที่เกาหลีใต้ หรือสิงคโปร์ ที่ไม่ได้มีสวัสดิการมากมายเช่นประเทศรัฐสวัสดิการที่แท้จริง!

* * *

ไม่น่าเชื่อจริงๆ ว่าที่เมืองไทย เราจะดูแลนักเขียนที่เสียสละเพื่อประชาธิปไตยคนสำคัญเช่นพี่รุ่งโรจน์กันไม่ได้

งานเขียนของพี่รุ่งโรจน์นั้นสำคัญมาก และมันควรจะได้มีการจัดพิมพ์

ใครอาสาช่วยพี่รุ่งโรจน์เรื่องหนังสือได้ก็ช่วยกันอาสาตัวเข้ามาหน่อยนะฮะ

เรื่องนี้ คงเป็นเรื่องที่คนตัวเล็กตัวน้อย "ใจใหญ่กระเป๋าเล็กทั้งหลาย" จะช่วยกันฮะ "คนตัวใหญ่กระเป๋าตุง" เขาไม่เอานักเขียนไม่เลือกข้างกันมาตั้งแต่ต้นอยู่แล้ว เหลือพวกเรากันเองนั่นล่ะ ที่จะต้องช่วยกันที่จะทำได้

อย่าให้นักสู้ทางความคิดที่เราเห็นกันมาตลอดสามปีว่าต้องต่อสู้หนักขนาดนี้ และต้องเผชิญกับความเจ็บปวดตามลำพังเลยฮะ

เล็กเชื่อว่าพวกเราหลายคนมีศักยภาพที่จะสนับสนุนและดูแลนักเขียนนักคิดด้านประชาธิปไตย ที่มีกันเพียงไม่กี่คนได้อยู่แล้ว ถ้าทำกันจริงๆ

ฝากทางเมืองไทยช่วยกันดูแลพี่รุ่งโรจน์ วรรณศูทร กันด้วยนะฮะ!

รุ่งโรจน์ 'อริน' วรรณศูทร

"ผมไม่ได้ยอมแพ้ แต่ผม "ไม่มีที่ยืน" อีกต่อไปแล้วครับ เหนื่อยมาก อย่างที่เขียนไป : ตรองมาหลายเดือน ว่า จะหยุดทำหนังสือพ็อคเก็ตบุ๊ค "2475-2549 โปรดฟังอีกครั้ง" ที่เขียนเองทะยอยลง "โลกวันนี้ วันสุข" ต่อเนื่องเกือบ 80 ตอน ทำอาร์ตเวิร์คเอง ตรวจปรู๊ฟเอง และเหลืองานอีกประมาณ 20% / ปล่อยให้มันตายไปกับตัวผมเองซะ / สับมันทิ้ง ลบไฟล์จาก Macintosh ให้หมด / ปิด fot=rum และ blog ให้หมด / เลิกแม่งดีกว่า / ทำไปก็ขายไม่ได้ ไม่มีใครต้องการและคงไม่มีสื่อสนับสนุน สำหรับผลงานของ "คนเบี้ย""

* * *
คนที่น่าสงสารที่สุด 
และเป็นเหยื่ออธรรม 
ที่คงจะถูกจองจำอีกยาวนาน 
เพื่อเซ่นสังเวยการต่อรองอำนาจเบื้องบน

* * *
ขออ๊วกกับวิกฤตชีวิตตัวเองตอนนี้หน่อยนะฮะ
เหมือนกับถูกซินามิถล่ม ...
อะไรมันจะมาโถมใส่พร้อมกันในช่วงนี้วะ
กูขอแค่อีก 2 เดือน หลายเรื่องก็จะคลี่คลาย ...

แม่ง ...ถล่มกันเข้ามารอบทิศรอบทางโดยไม่ปรานี
3 ปียังไม่พอกับการทดสอบความแข็งแกร่งของใจกูอีกหรือวะ!
ยังไงๆ กูก็จะไม่ก้มหัวให้ชะตากรรม
ยังไงๆ กูก็ยังยืนยันว่า "ชีวิตนี้กูเลือกเอง"

กูผ่าน "จุดต่ำสุดในชีวิต" มาแล้ว
และได้ปฏิญญาณไว้ตอนนั้นว่า
"ไม่ว่าจะต้องเผชิญหน้ากับอะไร"
มันคือ "กำไร" ของชีวิต

โถมกันเข้ามาซะทีเดียวกัน ณ ตอนนี้เถิดวิกฤต
ถ้ายังต้องคงการทดสอบความแข็งแกร่งของกูอีกครั้ง!!!
* * *

So scary....

เพราะอย่างนี้ด้วยล่ะ ทำให้ไม่ค่อยกล้าซื้ออาหารแห้งและเครื่องปรุ่งอาหารที่ติดฉลาด "Made in China"

อ่านแล้วสยองเป็นบ้า!

China's Top 9 Fake Foods

* * *

ยินดีด้วยกับ No Chains ที่ขยายเครือข่ายได้ 5 ประเทศแล้ว!!!


Dignity Returns
เรียนเชิญเข้าร่วมงานเปิดตัวการออกแบบเสื้อ โนเชนส์ ครั้งที่ 5
เนื่องด้วยกลุ่มสมานฉันท์ (Solidarity Group) ตั้งอยู่เลขที่ 38/79-81 ซอยเอกชัย 64/2 ถนนเอกชัย แขวงบางบอน เขตบางบอน กรุงเทพฯ 10150 ซึ่งผลิตสินค้าแบรนด์ Dignity Returns

มีโครงการร่วมกับโรงงานของคนงานที่ประเทศอาเจนติน่า, ฟิลิปปินส์ ,ฮ่องกง และอินโดนีเซีย ที่ผลิตสินค้าร่วมกันภายใต้แบรนด์ No Chains จะเปิดตัวเสื้อโนเชนส์ครั้งที่ 5 ร่วมกันในวัน เสาร์ ที่ 13 กรกฎาคม 2556 ตั่งแต่เวลา 18.30-21.00 น. ณ. โรงงานกลุ่มสมานฉันท์

* * *
ไม่เข้าใจจริงๆ ว่าคนอายุ 34 ปีเช่นเณรคำนี้ หาเงินเก่งขนาดนี้ได้ยังไง ได้มาจากไหน

กูเห็นคนรอบข้างที่สนับสนุนการต่อสู้เพื่อประชาธิปไตย ไม่มีใครสักคนมีเงินบริจาคกันมโหฬารเช่นนี้..

ขนาดให้เณรคำพกเงินเป็นฟ่อน จะซื้ออะไรก็ได้เป็นล้านหรือร้อยล้านแบบนี้ สร้างบ้านให้พ่อแม่ใหญ่โตเช่นนนี้ กูมึนตึบว่ามีคนไทยรวยกันจนมีเงินบริจาคให้เณรคำมากมายขนาดนี้เชียวหรือ?


ตร.กองปราบเตรียมขอหมายศาลเข้าค้นบ้านพ่อ-แม่พระวิรพล และ สาขาสำนักสงฆ์ หลังเดินทางเข้าตรวจสอบแต่เจ้าบ้านไม่ยอมพบอ้างเจ็บป่วย http://bit.ly/152VbGE