19 มิ.ย.13

อีกกระทู้นะขออัดเรื่องการโจมตีรัฐบาลเรื่องช่วยชาวนาหน่อยนะ

ขอโทษนะฮะ

เกษตรกรยุโรปจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ เลือกที่จะรับเงินค่าจ้างไม่ต้องทำเกษตรจากอียู แทนการทำเกษตรฮะ

สหภาพยุโรป หรืออียูนี่ล่ะตัวอุ้มเกษตรและอุดหนุนเกษตรกันหนักจริงๆ แต่ห้ามประเทศโลกใต้อุดหนุนการเกษตรด้วยข้ออ้างว่าขัดกับมาตรการการค้าเสรี

แต่อียูก็เลือกใช้วิธีการอุดหนุนเกษตรกรที่ยุโรปให้ไม่ต้องทำเกษตร เพื่อเปิดพื้นที่เจรจาการค้าเสรีกับประเทศโลกใต้ โดยการเจรจาแลกการนำเข้าสินค้าทั้งอาหาร เครื่องนุ่งห่ม อุปกรณ์ราคาถูกจากประเทศโลกใต้กับเทคโนโลยี สินค้าราคาแพง และค่าบริการทางมันสมองราคาแพงกว่าของชาวยุโรป

ประเทศไทยเพิ่งเริ่มจะหัดเรียนรู้ที่จะรับผิดชอบและอุดหนุนชาวนากันบ้างแค่นิดหน่อยเอง
ในขณะที่อุ้มคนรวย คนเมืองกันมาหลายร้อยปี

จะมาบ่นเรื่องมากอย่างน่ารำคาญกันไปทำไมพวกคนเมือง
รู้จักใจกว้าง หยุดเห็นแก่ตัว
และหัดเรียนรู้ที่จะเห็นอกเห็นใจและแฟร์
กับคนชนบทที่ผลิตข้าวให้กันกันบ้างเถอะ
* * *

ชอบมากๆๆๆๆ
การประท้วงที่เงียบที่ก้องกัมปนาทกว่ากระสุนปืน

มีวิธีการประท้วงอย่างสร้างสรรค์ ทรงพลัง และสันติมากมายให้เดินตามหรือคิดค้นกันนะฮะ
---------

มติชน "พบกับ"ชายผู้ยืนท้าทาย" ผู้จุดประกาย"ประท้วงเงียบ"ทั่วตุรกี"

วันที่ 19 มิถุนายน พ.ศ. 2556

ชายชาวตุรกี เจ้าของฉายา "ชายผู้ยืนท้าทาย" (standing man) ได้เป็นผู้นำการประท้วง"อย่างสงบ"ต่อเหตุการณ์การสลายการชุมนุมของเจ้าหน้าที่ด้วยความรุนแรง บริเวณจัตุรัสทักซิมในนครอิสตันบูล 

นายเออร์เดม กุนดุซ ซึ่งมีอาชีพเป็นนักแสดง ได้ยืนสงบนิ่งเป็นเวลานานกว่า 8 ชม. ต่อหน้าภาพวาดของมุสตาฟา เคมาล อาตาเติร์ก ผู้ก่อตั้งประเทศตุรกี ที่ติดไว้บริเวณอาคารศูนย์วัฒนธรรมอาตาเติร์ก ตั้งแต่เวลา 18.00 น. วานนี้ ตามเวลาท้องถิ่น 
จากนั้น ประชาชนหลายร้อยคนได้ร่วมยืนอย่างสงบบริเวณจัตุรัสทักซิมเช่นเดียวกับนายกุนดุซ สำนักข่าวโดกัน รายงานว่า นายกุนดุซกล่าวว่า การยืนครั้งนี้เป็นการยืนเชิงสัญลักษณ์ เพื่อต่อต้านการปราบปรามของเจ้าหน้าที่ 
ต่อมาเมื่อเวลาประมาณ 02.00 น.วันนี้ เจ้าหน้าที่ได้เคลื่อนกำลังเข้ามา ขณะที่มีผู้ร่วมยืนสงบนิ่งกว่า 300 คน โดยผู้ที่ขัดขืนไม่ยอมออกจากพื้นที่ถูกเจ้าหน้าที่จับกุมตัวไป 10 ราย อย่างไรก็ดี ในช่วงเช้าวันนี้ ได้มีผู้มายืนประท้วงด้วยการยืนสงบนิ่ง แต่ก็ถูกเจ้าหน้าที่นำตัวขึ้นรถตู้เพื่อไปสอบสวน

 * * *

เห็นดาราและคนมีชื่อเสียงในหลายประเทศมักจะออกมายืนเคียงข้างประชาชนร่วมต่อสู้กับความอยุติธรรม

มีแต่ดาราไทยนี่ล่ะ แค่ถูกข้อกล่าวหาว่าไม่รักพ่อ ก็ต้องออกสื่อกราบกรานขอโทษและปฏิญญารักพ่อมากที่สุดในโลก

ทั้งยังจัดกิจกรรมพากันร้องเพลงสรรเสริญพระบารมีกันอย่างซาบซึ้งน้ำตาไหลกันไม่หยุดหย่อน

พร้อมประกาศว่า"ยอมตายเพื่อในหลวง" หรือคำประกาศอันโด่งดังที่ว่า "ถ้าเกลียดพ่อ ไม่รักพ่อแล้ว จงออกไปจากที่นี่ซะ เพราะที่นี่คือบ้านของพ่อ เพราะที่นี่คือแผ่นดินของพ่อ"

เห็นดาราต่างชาติรณรงค์เพื่อสันติภาพ ความเท่าเทียมและประชาธิปไตย สิทธิสัตว์ สิทธิมนุษยชน และการใช้ชีวิตที่คำนึงเรื่องจริยธรรมผู้บริโภค

แล้วหันมาดูดาราไทยที่มักไม่ได้ทำกิจกรรมอะไรเลยเพื่อสังคม นอกจากเป็นผู้นำแฟชั่นแบรนด์ดัง และส่งเสริมการใช้ชีวิตที่ฟุ่มเฟื่อยหรูหราโดยไม่ต้องคิดมากกันแล้ว ก็ได้แต่สังเวชใจ