5 พ.ย. 13

กูไม่รู้ว่าเพราะประเทศมันดัดจริดเรื่องผู้ดีมีศีลธรรมบริสุทธิผุดผ่องหรือเปล่า

ทำให้พวกดาราทั้งหลายมันก็พากันดัดจริต เบลโล หรือต้องบีบน้ำตานองขอโทษสังคม กันทั้งหญิงและชาย ยามภาพ x ออกสู่สาธารณะ

แหม ใครๆ ก็รู้ว่า เรื่องเซ็กส์มันเป็นเรื่องปกติ ความอยากมันเริ่มเกิดตั้งเด็กแล้ว

และมันก็พยายามซั่มกันทุกจังหวะ ทุกโอกาสที่มีนั่นแล้ว - ทั้งหญิงและชายนั่นล่ะ

กูเห็นข่าวดาราน้ำหูน้ำตาไหลเรื่องซัมกับใครที่ไร กูหงุดหงิดอ่ะว่า ...

อันดับแรกเลย หงุดหงิดสื่อที่ให้พื้นที่ข่าวเรื่องนี้กันอย่างมโหฬาร ราวกับผู้ตรวจจับศีลธรรมของสังคม - ที่เรื่องความเดือดร้อนของประชาชนชาวบ้าน นี่ล่ะยากฉิบเลยกว่าจะได้ออกสื่อ

หงุดหงิดกับพวกดาราเช่นกัน ... แม่ง!... มันจะทำตัวเป็นคนดีของชาวเมืองสวรรค์กันอยู่นั่นล่ะ ... ไม่พูดอะไรกันตรงๆ ...

ทำไมไม่บอกว่ามันเป็นเรื่องส่วนตัว ดูแลตัวเองและคู่เซ็กส์เรื่องความปลอดภัยดีก็แล้วกันล่ะ หรือจะบอกว่า มีใครไม่มีเซ็กส์กันหรือ โตเป็นหนุ่มเป็นสาวอายุกว่า 20 30 ปีแล้ว ไม่ให้มีเซ็กส์ซิเรื่องแปลก

จริงๆ นะ ... กูไม่สนว่าดารามันจะซำกับใครตั้งแต่อายุเท่าไร กับใคร หรือ ที่ไหน เช่นเดียวกับไม่สนใจชาวบ้านชาวช่องว่าจะซัมกันตั้งแต่เมื่อไร ตอนไหน หรือ กับใคร

แต่กูสนใจว่า มึงมีเซ็กส์แบบปลอดภัยกันหรือเปล่า ทั้งตัวเองและคู่ครอง

และกูก็ห่วงเด็กวัยรุ่นโดยเฉพาะจากต่างจังหวัด ที่ได้ฟังมากขึ้น ... เรื่องถูกจับแต่งงานกันเร็ว จนต้องออกจากโรงเรียนในวัยเพียง 16 -17 เพราะไปซั่มกัน หรือเพราะท้อง

กูไม่เข้าใจว่าซัมกันแล้วทำไมครอบครัวต้องจับเด็กแต่งงานกัน .. จนพวกเธอและเขาเสียอนาคตทางการเรียนการศึกษา

ทำไมซั่มกันแล้วออกจากโรงเรียน ...
ต้องแลกกับอนาคตทางการศึกษา...
ต้องแลกกับการสูญเสียชื่อเสียง ...

ก็ชีวิตมนุษย์มันก็ซ่ำกันได้ทั้งชีวิตไม่ใช่หรือ

ทำไมทำให้เรื่องที่เป็นปกติธรรมชาติมากๆ เช่นเรื่องเซ็กส์นี่มาเป็นเครื่องมือแห่งศีลธรรมดัดจริตกันด้วย ... กูว่ามันพอกันได้แล้วล่ะ

หัดถาม หัดพูดอะไรกันที่มันตรงไปตรงมา ไม่ดัดจริตทางศีลธรรมเรื่องเซ็กส์กันเสียทีเหอะ!!!!

คนชอบซั่ม แต่ไม่ต้องการแต่งงานกับใครเช่นกู เห็นแล้วทั้งสงสารและสมเพชเวทนาว่ะ!

* * * 

โยนหินถามทางแบบจะเอาทักษิณกลับบ้านกันมาหลายครั้ง
และก็ถอยกันทุกครั้งอย่างง่ายๆ ว่า ทักษิณไมไ่ด้ดัน ยิ่งลักษณ์ไม่ได้เซ็น

พยายามลอยลำเหนือการทำผิดหลักการ ผิดหลักความชอบธรรม และชัดกับกระแสสาธารณชนกันมาจะ 3 ปีแล้ว โดยเอาคนตาย คนเจ็บ และความเจ็บปวดสูญเสียเป็นหลักประกัน ... ด้วยมนตรา "แก้ไข ไม่แก้แค้น, let's it be, ปรองดองกันเถิด เพื่อชาติและส่วนรวม ฯลฯ"

อยากเสนอแนะ ให้ทักษิณและยิ่งลักษณ์ เปิดให้ผู้เชี่ยวชาญทั้งไทยและเทศ อาทิ ICC UN นักวิชาการนิติราษฎร์ อ. สมศักดิ์ ศปช. หรือคนทำงานด้านสิทธิมนุษยชน ได้เข้าให้ข้อมูลและคำแนะนำกันบ้าง ไม่ใช่รับฟังแค่ คอป. และที่ปรึกษาตัวเอง พรรคพวก และนักธุรกิจ

นายกรัฐมนตรีของทุกประเทศที่มีความขัดแย้ง มักจะเปิดให้กลุ่มผู้ทักท้วงได้เข้าพบและแนะนำ ...

ยิ่งลักษณ์น่าจะทำเสียที .. เปิดทำเนียบ เปิดใจรับฟังเสียงคัดค้านที่มีเหตุผลและข้อเสนอที่ดีๆ จากคนที่ห่วงใย "บ้านเมืองเช่นกัน" กันบ้างเถิด

ถ้าอยากเดินหน้าจริง ... ต้องเอาหลังผิงประชาชนฮะ!

* * * 
ได้ตอบคำถามนักข่าวสาวสวยหลังไมค์ไปตั้งแต่สัปดาห์ที่แล้ว ตอนนี้ก็ถึงเวลานำมาแบ่งปันหน้าไมค์ได้แล้วฮะ

1. คิดอย่างไรกับการผลักดันเรื่องนิรโทษกรรมเหมาเข่งของเพื่อไทย

สิ่งแรกที่แวบเข้ามาเลยคือ ไม่คิดว่าเพื่อไทยจะไม่ฉลาดทางการเมืองและไม่ยอมเรียนรู้และคิดจะแก้ไขที่ต้นตอปัญหาของประเทศชาติซะขนาดนี้

วิจารณ์มาตลอดว่ายุทธศาสตร์ “เศรษฐกิจก่อนประชาธิปไตยค่อยๆ ไป” ของรัฐบาลยิ่งลักษณ์หรือเพื่อไทย เป็นยุทธศาสตร์ที่พิสูจน์มาแล้วในหลายประเทศว่าไม่สามารถสร้างเสถียรภาพของประเทศได้อย่างยั่งยืน เพราะยุทธศาสตร์นี้ไม่ได้มุ่งแก้ปัญหาการละเมิดสิทธิและเสรีภาพของประชาชนเป็นที่ตั้ง ในประเทศที่มีชนชั้น และมีการคอรัปชั่นทุกระดับที่อิงแอบกับอำนาจสถาบันพระมหากษัตริย์เช่นประเทศไทยนี้ การจะพัฒนาประเทศได้อย่างยั่งยืนต้องมุ่งเรื่องการส่งเสริมเสรีภาพประชาชน การมีส่วนร่วมของประชาชนในการช่วยตรวจสอบ ติดตามและขจัดปัญหาคอรัปชั่นไปควบคู่กัน นั่นก็หมายความว่าต้องมุ่งเรื่อง “สิทธิและเสรีภาพของประชาชนมาก่อน เพื่อพัฒนาความเจริญของประเทศไปด้วยกัน”

เรื่องนี้เป็นเรื่องที่น่าเสียดายยิ่งว่า พรรคเพื่อไทยไม่ว่าอยู่ภายใต้การบริหารของทักษิณหรือยิ่งลักษณ์ไม่เคยแสดงท่าทีใดๆ เลยว่าให้ความสำคัญเรื่องนี้ ยังเล่นการเมืองเน้นเชิดชูตัวผู้นำอยู่เช่นเดิม ซึ่งเรื่องนี้เห็นว่าเพื่อไทยตามพัฒนาการทางความรู้และทางจิตสำนึกของประชาชนในประเทศ โดยเฉพาะในช่วง 5-6 ปีที่ผ่านมาไม่ทันแล้ว

2. ถ้าเหมาเข่งแล้วนักโทษการเมืองที่ติดอยู่ออกมาได้เร็ว จะยอมหรือไม่

เรื่องนิรโทษกรรมนี้ไม่ใช่เรื่องการเอานักโทษในคุกเป็นตัวประกันแลกเปลี่ยน เพราะถ้าเอานักโทษการเมืองในคุกเป็นตัวประกันแลกเปลี่ยน การไม่รวมนักโทษและคดีมาตรา 112 เข้าไปอยู่ด้วย ยังไงมันก็ไม่สามารถทำให้สถานการณ์การเมืองคลี่คลายได้อย่างแท้จริง

เอาเข้าจริง การถอยทุกรูปแบบของเพื่อไทยเช่นที่ทำอยู่นี้ ยังไงๆ ก็ไม่สามารถที่จะปรองดองสถานการณ์การเมืองในประเทศไทยได้ เพราะเมื่ออีกฝ่ายตั้งธงการต่อสู้มาตั้งแต่ปี 2548 ว่า “โค่นทักษิณไม่ว่าจะด้วยยุทธวิธีใดก็ตาม” ซึ่งยังไม่เคยเปลี่ยนแปลงเลยจนถึงบัดนี้ แม้ยิ่งลักษณ์จะได้คะแนนนิยมมากขึ้นก็ตาม แต่เมื่อดูปัญหาหลายปัญหาในประเทศที่ยังไม่สามารถแก้ไขจัดการได้ การเมืองโยนหินถามทางโดยทักษิณและเพื่อไทยเป็นระยะๆ และถอยแบบสุดซอยของเพื่อไทยเช่นที่ทำอยู่นี้ เป็นยุทธวิธีการเมืองที่นอกจากจะไม่ได้ใจฝ่ายตรงข้ามแล้ว ก็ยังเสียคะแนนหนุนจากฝ่ายคนต่อสู้เพื่อให้ประเทศเดินหน้าเป็นประชาธิปไตยอย่างสมบูรณ์ไปด้วย … เรื่องนี้หลายๆ คนก็ชี้ให้เห็นกันอยู่มาโดยตลอด

3. ทำไมคิดว่าเพื่อไทยและทุกฝ่ายไม่อยากรวมคดี ม.112 ไว้ในนิรโทษกรรมด้วย

คิดว่าทักษิณและเพื่อไทยจะไม่แตะเรื่องโครงสร้างการเมือง “ประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข” อย่างง่ายนัก ถ้าไม่ได้รับแรงเรียกร้องจากประชาชนอย่างมีพลังและเสียงดังพอ เพราะเพื่อไทยรอการเปลี่ยนผ่านรัชสมัย และมีความมั่นใจว่าเมื่อเปลี่ยนผ่านรัชสมัยแล้ว จะสามารถทำงานกับสถาบันพระประมุขได้ดีขึ้น … นี่ก็เป็นการเมืองแบบมองที่ตัวบุคคล ไม่ใช่มองที่ระบบ ซึ่งคิดว่าเพื่อไทยมองเฉพาะเรื่องตัวบุคคลแต่ไม่ได้มองโครงสร้างของสถาบันประมุขที่มีปัญหาและขัดกับหลักการประชาธิปไตยในประเทศ อีกทั้งยังประเมินเรื่อง “พระราชอำนาจ” ต่ำเกินไปด้วย

4. คิดว่าคุณทักษิณ ควรได้รับนิรโทษกรรมหรือไม่

ไม่คิดว่าควรจะมีการนิรโทษกรรมผู้นำ ไม่ว่าฝ่ายไหนทั้งนั้น แต่ขอมีการวางระบบกระบวนยุติธรรมเพื่อสอบสวนทุกคดีอย่างยุติธรรมไม่เลือกข้างและเป็นกระบวนการยุติธรรมสากล

คิดว่าในการพิจารณาคดีการเมืองไทยที่อ่อนไหวเช่นนี้และมีความคาบเกี่ยวกับสถาบันพระมหากษัตริย์อยู่มาก ศาลไทยไม่พอ และตัดสินยังไงก็มีข้อกังขา ประเทศไทยต้องขอการสนับสนุนในกระบวนการพิจารณาคดีการเมืองของประเทศไทยโดยศาลยุติธรรมสากล ไม่ว่าจะเป็นศาลโลก หรือ ศาลอาญาระหว่างประเทศ ICC
* * *

กูได้ยินการอ้างว่า รอรัชกาลที่ 10 ก่อนนี่มาเป็นชาติแล้วนะฮะ

ถ้าการคงอยู่ของ ร. 9 ของสถาบันพระประมุขสำคัญที่สุด
จนต้องให้หลายปัญหารอการแก้ไข (ซึ่งก็ไม่มีหลักประกันว่า ร. 10 จะลุกมาแก้ไข)
กันเป็นทศวรรษเช่นนี้

กูว่า รัฐบาลคุยกับสำนักพระราชวังและองคมนตรีอย่างจริงจังเถิดว่า ..
จะร่วมกันแก้ปัญหาบ้านเมืองยังไงตอนนี้

แทนที่จะให้ประชาชนต้องทนทุกข์ รอการเปลี่ยนผ่าน
พูดอะไรก็ไม่ได้ วิจารณ์นิดหน่อย ก็แจ้งจับ
เพราะกลัวกันไปเองว่า ...
เดี๋ยวจะระคายเคืองเบื้องพระยุคลบาท (กันอยู่เช่นนี้)

ประเทศชาติเสียหายมากนะฮะกับการเมืองแบบนี้

ทั้งงบประมาณแผ่นดิน ทั้งทางเศรษฐกิจของชาวบ้านและพลเมือง
ทั้งเรื่องเสถียรภาพทางสังคม เศรษฐกิจ และการเมือง
ที่สำคัญ เสียสุขภาพจิตกันทั้งประเทศแล้วตอนนี้

ประชาชนคือคนเจ็บปวดและสูญเสียที่สุดนะฮะ

จะให้รอกันไปอีกกีปี่ฮะ?
* * *

น่าสนใจนะว่าม๊อบอีลีตประชาธิปัตย์รอยัลลิสต์ครั้งนี้ จะอยู่กันได้นานและทรหดอดทนแค่ไหน ... และก็อยากรู้เหมือนกันว่าจะไปชวนทหารทำรัฐประหารครั้งนี้ "ในนามใคร"?

ตอนนี้กูทำใจสบายๆ ตามข่าวไปเรื่อยๆ แล้วล่ะ!

อะไรที่จะเกิดต่อจากนี้ไป กูถือว่าเป็นการทดสอบ รัฐบาล คนเสื้อแดงและคนไทยกันอีกครั้งว่า ... พัฒนาด้านประชาธิปไตยของเรามันพัฒนาก้าวหน้าขึ้นมาบ้างไหม และถึงระดับไหน?

สำหรับกู ค่อนข้างจะเชื่อมันว่า มันจะไม่จบแบบ 19 ก.ย. 2549 แน่ๆ




การออกมาต้านพรบ. นิรโทษกรรมของอธิการบดีมหาลัยทั้งหลายด้วยข้ออ้างหลักว่าเพื่อต้านคนโกงและการคอรัปชั่น โดยไม่ยอมแตะต้องปัญหาอื่นๆ

แถลงการณ์ของ อธิการบดีมหาวิทยาลัยเป็นความอัปยศยิ่งกว่าการกระทำของพรรคประชาธิปัตย์มากนัก

เพราะปชป. เป็นพรรคที่ขาดจริยธรรมนั่นเห็นชัดเจน

แต่ไม่คิดว่ามหาวิทยาลัยไทยที่มีหน้าที่ให้ความรู้เพื่อสร้างคนที่มีคุณภาพ จะไร้ซึ่งวิจารณญาณและขาดการใช้เหตุผลรอบด้านได้ถึงเพียงนี้

สำหรับอดีตนักศึกษาคนหนึ่งที่มุ่งมั่นใช้ความรู้ความสามารถที่ได้ร่ำเรียนจากมหาวิทยาลัย ทำงานตลอดชีวิตเพื่อต่อสู้กับการกดขี่ขูดรีด และสร้างความเท่าเทียมกันในสังคม ...

มันเป็นเจ็บปวดและเศร้าสะเทือนใจอย่างยิ่ง ...

ที่ต้องพบเห็นกับพฤติกรรมเช่นนี้ ของอธิการบดีมหาวิทยาลัยที่โด่งดังทั้งหลายในศตวรรษที่21

ที่มา: กลุ่มตุลาการผู้รักแผ่นดินออกแถลงการณ์ต้าน พ.ร.บ.นิรโทษกรรม
http://www.mcot.net/site/content?id=5278debe150ba0061a000178#.Unkm-JQpZc5
* * *

เงินจากการเป็นรัฐบาลสมัยที่แล้วหมดแล้วหรือฮะ
เร่ง speed ฉิบหาย

เก่งจัง ชินวัตร