7 พ.ย. 13

ตอนช่วงวิกฤติเบอร์รี่ปี 2552 คนงานหลายร้อยคนก็นำเรื่องฟ้อง DSI แต่ก็เงียบไป

ครั้งนี้ขอให้ DSI จัดการพวกบริษัทไทยให้ได้เสียทีเถิด จะได้เป็นเยี่ยงอย่างบ้าง

การกินแรงคนงานเบอร์รี่ในการทำงานเพียงแค่สองสามเดือน แต่มีคนกินแรงพวกเขากันตั้ง 13-14 ทอด ... มันโหดร้ายที่สุดของการไปทำงานต่างประเทศแล้วจริงๆ

Manager Online: ดีเอสไอจ่อชงคดีแรงงานไทยถูกนายหน้าตุ๋นค้าแรงงานที่สวีเดนเป็นคดีพิเศษ โดย ทีมข่าวอาชญากรรม 6 พฤศจิกายน 2556 14:07 น.

ดีเอสไอชงคดีแรงงานไทยถูกหลอกไปเก็บผลไม้ป่าที่สวีเดนเข้า กคพ. คาดมีเจ้าหน้าที่รัฐเอี่ยว ด้าน รมว.ยุติธรรม ห่วงประชาชนหวั่นโดนหลอกซ้ำ พร้อมสั่งให้ ปปง.ช่วยตรวจสอบและกรมคุ้มครองสิทธิฯยื่นมือเข้าช่วยเยี่ยวยาเหยื่อแล้ว 
ที่กระทรวงยุติธรรม เวลา 10.00 น.วันที่ 6 พ.ย. นายชัยเกษม นิติสิริ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม พร้อมด้วยนายสุชน ชาลีเครือ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม นายปิติพงศ์ เต็มเจริญ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม นายกิตติพงษ์ กิตยารักษ์ ปลัดกระทรวงยุติธรรม นายชาญเชาวน์ ไชยานุกิจ รองปลัดกระทรวงยุติธรรม นางสุวณา สุวรรณจูฑะ รองปลัดกระทรวงยุติธรรม นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) และคณะผู้บริหารกระทรวงยุติธรรม ประชุมคณะผู้บริหารกระทรวงยุติธรรม เพื่อติดตามความคืบหน้าการดำเนินงานด้านต่างๆ ตามที่ได้มอบหมายให้แต่ละหน่วยงานไปดำเนินการ พร้อมทั้งนำเสนอแนวทางการขับเคลื่อนการอำนวยความยุติธรรมสู่ประชาชน โดยใช้เวลาในการประชุมนานกว่า 1 ชม. 
นายธาริตกล่าวภายหลังการประชุมถึงกรณีแรงงานไทยถูกหลอกไปเก็บผลไม้ป่าที่ประเทศสวีเดน ว่าสืบเนื่องจากตัวแทนผู้ใช้แรงงานมายื่นหนังสือร้องเรียนต่อดีเอสไอ เมื่อวันที่ 7 ต.ค.ที่ผ่านมา โดยระบุว่าบริษัท เอ็ม ฟีนิกซ์ เอ็นเตอร์ไพรส์ จำกัด ตั้งอยู่เลขที่ 401 หมู่ 9 ต.ช่องสามหมอ อ.แก้งคร้อ จ.ชัยภูมิ หลอกลวงคนงานให้เดินทางไปเก็บผลไม้ป่าที่ประเทศสวีเดน แต่ภายหลังเมื่อคนงานเดินทางไปทำงานที่ประเทศสวีเดนแล้ว บริษัท เอ็ม ฟีนิกซ์ เอ็นเตอร์ไพรส์ จำกัด กลับไม่ยอมจ่ายเงินค่าแรงงานเก็บผลไม้ให้แก่คนงาน และคนงานไทยที่เดินทางไปกับบริษัท เอ็ม ฟีนิกซ์ เอ็นเตอร์ไพรส์ จำกัด ในครั้งนี้มีประมาณ 250 คน มาจากหลายจังหวัด เช่น ขอนแก่น ชัยภูมิ นครพนม อุดรธานี ร้อยเอ็ด อุบลราชธานี เพชรบูรณ์ หนองบัวลำภู มหาสารคาม กาฬสินธุ์ นครราชสีมา ชัยนาท ฉะเชิงเทรา แพร่ สมุทรปราการ ทั้งนี้คนงานจะต้องเสียค่าใช้จ่ายในการดำเนินการเดินทางไปเก็บผลไม้ให้แก่บริษัทดังกล่าวรายละประมาณ 75,000-100,000 บาท ซึ่งบางรายอาจจ่ายเป็นเงินสดให้แก่บริษัทฯ แต่บางรายไปกู้เงินกู้นอกระบบมาจ่ายเป็นค่าเดินทาง หรือบางรายไปกู้เงินที่ ธ.ก.ส. จากนนั้นก่อนออกเดินทางบริษัทจะให้คนงานลงชื่อในสัญญาจ้างแรงงานและเอกสารการกู้ยืมเงินโดยให้นำเอกสารสิทธิในที่ดินเอกสารคู่มือรถยนต์ หรือหลักทรัพย์อื่นมาวางค้ำประกันไว้กับบริษัท 
อธิบดีดีเอสไอกล่าวว่า เมื่อเดินทางไปที่ประเทศสวีเดนแล้วจะถูกเจ้าหน้าที่ของบริษัทฯ ยึดหนังสือเดินทางเอาไว้ แล้วให้ทำงานเก็บผลไม้ตั้งแต่เวลาประมาณ 04.00-22.00 น. และมีความเป็นอยู่ลำบากนอกจากนี้คนงานจะมีค่าใช้จ่ายในการพักอยู่ที่แคมป์คนงานประมาณวันละ 1,300 บาท หรือ 280 โครนสวีเดน แต่ไม่เคยได้รับเงินค่าจ้างจากการเก็บผลไม้จากบริษัท จึงได้เข้าไปประท้วงและร้องเรียนต่อเจ้าหน้าที่ของประเทศสวีเดน กระทั่งมีคนงานไทยที่กู้ยืมเงินเป็นค่าใช้จ่ายในการเดินทางเกิดความเครียดถึงขั้นฆ่าตัวตายที่ประเทศสวีเดน จนปัจจุบันคนงานเดินทางกลับมาประเทศไทยแล้วก็ยังไม่ได้รับเงินค่าจ้างจากบริษัท เอ็ม ฟีนิกซ์ เอ็นเตอร์ไพรส์ จำกัด แต่อย่างใด
นอกจากนี้ จากการสืบสวนเบื้องต้นยังพบว่า บริษัทดังกล่าวจะเชิดลูกจ้างหรือพนักงานในบริษัทเป็นกรรมการหรือผู้จัดการ แทนเจ้าของตัวจริง ส่วนตัวบงการซึ่งเป็นเจ้าของที่แท้จริงนั้นจะไม่มีชื่อปรากฏในเอกสารจดทะเบียนของบริษัท ทั้งนี้ยังพบว่าเจ้าของบริษัทที่แท้จริงมีพฤติการณ์หลอกลวงคนงานในลักษณะเช่นนี้มาอย่างต่อเนื่องเป็นเวลากว่า 3 ปีแล้ว ในการหลอกลวงคนงานไปทำงานในหลายประเทศ อันเข้าข่ายเป็นความผิดฐาน “ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน, ร่วมกันฉ้อโกงแรงงาน” ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 341, 343, 344 อย่างไรก็ตาม ลักษณะคดีดังกล่าวมีความซับซ้อนซึ่งจำเป็นต้องใช้วิธีการสืบสวนสอบสวนและรวบรวมพยานหลักฐานเป็นพิเศษ แต่เนื่องจากคดีดังกล่าวเป็นคดีความผิดอาญาอื่น ตนในฐานะเลขานุการคณะกรรมการคดีพิเศษ จะนำเรื่องนี้ส่งไปที่ประชุมของคณะกรรมการคดีพิเศษ (กคพ.) เพื่อให้มีมติรับไว้เป็นคดีพิเศษ ตาม มาตรา 21 วรรคหนึ่ง (2) แห่ง พ.ร.บ.การสอบสวนคดีพิเศษ พ.ศ. 2547 และขณะนี้คณะทำงานสืบสวนสอบสวนได้ดำเนินการสอบสวนปากคำชาวบ้านผู้เสียหาย เพื่อทราบรายละเอียดเกี่ยวกับการกระทำความผิดของ บริษัท เอ็ม ฟีนิกซ์ เอ็นเตอร์ไพรส์ จำกัด แล้ว นอกจากนี้เรามีข้อเท็จจริงว่าเจ้าหน้าที่รัฐบางคนบางส่วนรู้เห็นเป็นใจ อย่างเช่นการตั้งบูทหรือตั้งโต๊ะหลอกลวงในต่างจังหวัดก็จะมีเจ้าหน้าที่แรงงานในจังหวัดนั้นๆเข้ามาปรากฏตัว และเหยื่อจะมีการไปสอบถามทางแรงงานบางจังหวัดก็ยืนยันว่าเป็นบริษัทถูกต้อง นอกจากนี้ดีเอสไอยังได้รับข้อมูลเชิงลึกจากผู้ใหญ่ระดับซี 10 ของกระทรวงแรงงานว่าเรื่องนี้มีการเกี่ยวข้องกับเจ้าหน้าที่รัฐซึ่งมีการเก็บหัวคิวและมีการส่งซ่วย และหลังจากนี้ตนจะประสานงานกับ ป.ป.ท.เพื่อส่งข้อมูลในส่วนนี้เพิ่มเติมเมื่อมีความชัดเจนกว่านี้เพื่อดำเนินการต่อไป
 
นายธาริตกล่าวอีกว่า นายชัยเกษม นิติสิริ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ได้มอบหมายให้หน่วยงานในสังกัดกระทรวงยุติธรรมดำเนินในส่วนที่เกี่ยวข้อง ดังนี้ 1. ดีเอสไอทำการสืบสวนสอบสวน รวบรวมพยานหลักฐานการกระทำความผิดทางอาญา อันเข้าข่ายความผิดฐาน ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน, ร่วมกันฉ้อโกงแรงงาน” 2. กรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ เข้าไปดูแลและให้ความช่วยเหลือแก่แรงงานดังกล่าวทั้งเรื่องสิทธิ และให้คำแนะนำข้อกฎหมายต่างๆ และ 3. สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) ติดตามตรวจสอบบริษัท เอ็ม ฟีนิกซ์ เอ็นเตอร์ไพรส์ จำกัดว่า การกระทำดังกล่าวเข้าข่ายการกระทำผิดตามพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2542 หรือไม่ หากปรากฏว่าเข้าข่ายการกระทำความผิดให้ดำเนินการตามกฎหมายทันที
ทั้งนี้ นายชัยเกษมฝากประชาสัมพันธ์และเตือนประชาชนว่า อย่าหลงเชื่อหรือให้ระมัดระวังบริษัทที่อ้างว่าจัดหาแรงงานไปเก็บผลไม้ป่าที่ประเทศสวีเดน เนื่องจากตนเคยไปศึกษาดูงานที่ประเทศสวีแดน ซึ่งได้ทราบว่าเวลาไปเก็บผลไม้ป่าที่นั้นจะไม่มีนายจ้างที่ชัดเจน และค่าแรงจะไม่แน่นอนขึ้นอยู่กับว่าปริมาณผลไม้ป่าที่เก็บได้


* * * * 

ม๊อบพันธมิตรในนามอะไรก็ไม่รู้แล้วตอนนี้

ได้ยืนยันให้ทักษิณ ยิ่งลักษณ์และเพื่อไทยตระหนักว่า

นโยบาย "เศรษฐกิจตามแนวพระพราชดำริเพื่อการเฉลิมพระเกียรติ" และ "เสรีภาพมีข้อยกเว้น" ที่เป็นยุทธศาสตร์ของยิ่งลักษณ์ตลอดสองปีครึ่งที่ผ่านมามันไม่เวิร์ค

ยิ่งกู้เงินเพื่อเมกกะโปรเจคส์มามาก ยิ่งอันตราย เพราะนักการเมืองและครอบครัวไม่ว่าฝ่ายไหน ต่างก็ต้องการเก็บค่าหัวคิวการใช้เงินเหล่านี้

ถ้าปชป. และอดีตแนวร่วมพันธมิตรคืนชีพเกือบหมด รวมด้วยคณะตุลาการนับร้อย มีดารานักร้องดังมาช่วยเรียกคนกันคับคั่ง และมีแนวร่วมอย่างเข้มแข็งจากอธิการบดีมหาวิทยาลัยต่างๆ ที่ทุ่มกันสุดตัว โดยไม่รู้สึกอับอายต่อสังคมเช่นนี้ ...

แน่นอนว่าจุดเสี่ยงคือการพัฒนาสู่เรื่องการ "ล้มรัฐบาล" และนั่นแน่นอนเป็นความต้องการของ ปชป. แน่ๆ ...

จะทำอย่างไรที่ทำให้แนวร่วมสีเหลือง หยุดอยู่แค่ "นิรโทษกรรม" ไม่ไปต่อถึงขั้น "ล้มรัฐบาล"

เป็นโจทก์ที่เพื่อไทยและคนรักประชาธิปไตย - ที่ไม่ต้องการเห็นรัฐประหารโดยทหารในปี 2549 หรือรัฐประหารโดยศาลเมื่อเดือนธันวาคม 2551 เกิดขึ้นได้สำเร็จอีกครั้งหนึ่ง - ต้องช่วยกันคิด

ถ้าอยากจะมีแนวร่วมฝ่ายก้าวหน้า ยิ่งลักษณ์หรือทีมที่ปรึกษาต้องเปิดห้องรับฟังข้อเสนอแนะจากฝั่งแดง และนักวิชาการและนักกิจกรรมสายก้าวหน้าต่างๆ .. ถึงมาตรการรับมือการเมืองไทยตอนนี้ โดยไม่ให้ประวัติศาสตร์ซ้ำรอย

* * * * 

เมื่อเช้ายังหวังลึกๆว่านี่คือภาพตัดต่อ
สุดท้าย นสพ.แนวหน้า ก็ลงข่าวแล้วครับ
เฮ้อออ ธรรมศาตร์...
-------
Source : http://www.naewna.com/politic/76245

ปิดมหาวิทยาลัยออกมาเดินวันแรก 
ธรรมศาสตร์ก็เรียกหาทหารกันซะแล้ว

กูเศร้าใจแทนปรีดีจริงๆ ... 
ที่สร้างธรรมศาสตร์ด้วยความคาดหวังว่าจะเห็น 
"ธรรมศาสตร์รักประชาชน" 

ทำไมเพี้ยนกันไปได้ถึงขนาดนี้!!!