18 กพ. 2013

สิ่งที่เบลพูดไม่ได้แรงไปกว่าการที่ผู้ชายชอบด่าทอม ด่าเลส

แต่มันดูแรงในสายตาผู้ชายปากพล่อยชอบด่าทอม ด่าเลส ที่ชอบคิดว่าพอเจอควยแล้วจะหายเป็นทอมหายเป็นเลส และไม่ชินกับการถูกตอบโต้ตรงๆ และแรงๆ จากเลสเบี้ยนเช่นนี้

แต่ขอบอกตรงๆ หน่อยนะ นิ้วไม่ได้มีไว้แทนควย

และรูตูดก็ไม่ได้มีไว้แทนรูหี

เพราะมันไม่จำเป็นต้องมีควย

ไม่จำเป็นต้องมีรูหีเท่านั้น

ถึงจะสุขสมเรื่องเพศได้ มันสุขสุมได้ทั้งทางรูตูด ทางรูหี และไม่ว่าจะด้วยควย ด้วยนิ้ว หรืออุปกรณ์ช่วยทั้งหลาย

เรื่องนี้พวกผู้ชายที่ไม่เกย์ชอบคิดผิดๆ และหลงคิดว่าควยเท่านั้นที่เป็นจ้าวโลกบันดาลสุขให้กับผู้หญิง

เป็นความคิดที่กร่างและไม่เข้าใจวิถีรักเพศเดียวกันแม้แต่นิดเดียว

--------------

คุยหลังไมค์กับน้องชายคนหนึ่ง เรื่องปรากฎการณ์เบลล์และการตอบโต้ของหนุ่มต่อเรื่องนี้ เพราะรู้สึกว่า "ความเป็นชาย" ถูกกระทบ

ความเห็นของเขาน่าสนใจนะ
---------------


เพราะการศึกษาไทยไม่เคยใส่ใจรื่องเพศสภาวะไงครับ

ส่วนเด็กหนุ่มนี่นะ

ผมพูดเอาแบบดิบๆเลย

คือเด็กหนุ่มไทยในวัยนึง

มันมองพวกทอม ดี้ เป็นศัตรูนะ

เหตุผลง่ายๆที่ปัญญาอ่อนมากคือ ทอมชอบแย่งหญิง

นี่พื้นฐานเลย มันมองอย่างนี้

กับสอง ความภาคภูมิใจในสังคม ปิตาธิปไตย

พวกนี้เชื่อว่าเพศพ่อควรมีแต่ในเพศชาย

--------------------
อะไรที่มันรุนแรงกว่ากันระหว่าง

ผู้ชายที่คิดว่าควยเป็นจ้าวโลกและก็ประกาศป่าวๆ ว่า จะเย็ดทอมให้ลืมความเป็นทอมไปเลย

กับดี้ที่ลุกมาประกาศว่า เป็นดี้ 100% และไม่สนควยดุ้นไหนทั้งนั้น

กูว่าทัศนคติแบบผู้ชายอันตรายกว่า

ในฐานะที่มืีเพื่อนเป็นทอมหลายคน เมื่อนึกถึงภาพเพื่อนถูกขมขืนด้วยชายที่คะนองและมีทัศนคติแบบนี้

กูก็แทบจะแบกรับความเจ็บปวดแทนเพื่อนๆ ไม่ได้แล้ว

ไม่นับว่าทอมเหล่านั้นจะเจ็บปวดมากมายขนาดไหน และสภาพจิตใจจะเลวร้ายขนาดไหนถ้าถูกล่วงละเมิดทางเพศ - มันไม่ใช่เรื่องโพสต์กันเล่นๆ สนุกๆ

ดังนั้น คำโพสต์ของชายที่มีทัศคติเหยียดเพศ และอาจก่อให้เกิดอันตรายจริง กับคำตอบโต้ของดี้ที่ส่งผลกระทบต่อ "อัตตาตัวตนที่มีควย" อันยิ่งใหญ่ของชาย

กูจึงคิดว่าคำประกาศของชายนั้นรุนแรงและน่ากลัวมากกว่าคำตอบโต้ของดี้เป็นพันเป็นหมื่นเท่า

* * *

เขียนเพื่อสร้างความเข้าใจเรื่องออกัสซั่มของหญิงกันหน่อยนะฮะ

สำหรับหญิงจำนวนไม่น้อยเรื่องนี้เป็นเรื่องถึงยากถึงเย็นจริงๆ

และผู้ชายจำนวนไม่น้อยก็ยังไม่ยอมเข้าใจ และยังคิดว่าควยเท่านั้นที่จะพาหญิงสู่ขอบสวรรค์

ซึ่งเป็นความเข้าใจผิดพอสมควร เพราะสำหรับหญิงจำนวนไม่น้อย การจะถึงสวรรค์ชั้นหนึ่งหรือชั้นเจ็ด มันอาจจะต้อง/หรือต้องมีองค์ประกอบของทั้งควย และ/หรือทั้งนิ้ว ทั้งลิ้น ดนตรี ภาพโป๊ และบรรยากาศประกอบอื่นๆ มากมาย

ดูหนังเรื่อง Hysteria กันหน่อยนะฮะ เพื่อเพิ่มความเข้าใจหญิงมากขึ้น และหยุดเข้าใจผิดคิดว่า นิ้วเป็นของแปลกปลอมทางเซ็กส์
---------------------

ออกัสซึ่มและนิ้วนั้นสำคัญฉะไหน?

เรื่องการไม่เข้าใจว่า ออกัสซึ่มสำคัญฉะไหนสำหรับผู้หญิง และส่งผลต่อสุขภาพหญิงในหลายๆ ด้านมากมายขนาดไหน

เมื่อร้อยกว่าปีที่ผ่านมา ถึงกับมีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญรับรักษาหญิงที่ป่วยเนื่องจากความกดดัน ไม่เกรนขึ้น เนื่องจากการมีเพศไม่สุขสมกับสามี ภายใต้การระบุฐานโรคว่า “ฮีสทีเรีย” (ซึ่งต่อมาในต้นศตวรรษที่ 20 ได้มีการหักล้างเรื่องนี้และระบุว่าอาการฮีสทีเรียไม่ใช่เป็นอาการโรค)

ทั้งนี้ หมอจะรักษาด้วยการใช้นิ้วมือหมอ - นิ้วมือหมอจริงๆ นะฮะ - แหย่เข้าไปในช่องคลอดของหญิงและมาสเตอร์เบตให้เธอ จนหญิงถึงจุดสุดยอด

โดยที่ตอนนั้นยังไม่มีการบรรจุศัพท์มาสเตอร์เบชั่นหรือแปลไทยว่าการช่วยตัวเอง และคำว่า “ออกัสซึ่ม” หรือแปลไทย “ถึงจุดสุดยอด” ก็ยังไม่เป็นที่รู้จัก และคำนี้ถูกคิดขึ้นมาหลังจากนั้นอีกหลายสิบปี

แต่เนื่องจากเป็นการรักษาที่ใช้เวลานาน จนนิ้วมือและข้อมือหมอป่วยแทนซะเอง เมื่อหมอคนหนึ่งชื่อ Joseph Mortimer Granville ค้นพบเครื่องกระตุ้น (vibrator) เพื่อใช้รักษาอาการปวดกล้ามเนื้อ หมดที่รักษาโรคฮีสทีเรียที่รู้สึกไม่ไหวกับการใช้นิ้วมือ ก็หันมาใช้เจ้าตัวไวเบรเตอร์ตัวนี้แทนนิ้ว และมันให้ผลเร็วกว่านิ้วมือ

แต่เมื่อผู้ชายรู้เรื่องนี้มากขึ้น ก็รู้สึกเสียความเป็นชายและแสดงความไม่พอใจ จนทำให้เครื่องมือกระตุ้นทางเพศในรูปแบบ Dildo หรือเครื่องกระตุ้นไฟฟ้าต่างๆ กลายเป็นสินค้าต้องห้ามในหลายประเทศ รวมทั้งประเทศไทยด้วย ในปัจจุบัน

เรื่องราวของอาการฮีสทีเรียและการรักษาทางการแพทย์จนค้นพบเจ้าเครื่องกระตุ้นตัวนี้ ถ่ายทอดได้น่าสนใจในหนังเรื่อง Hysteria (2011)

แม้หนังจะไม่ถูกต้องเสียทีเดียวที่ให้ตัวหมอแกรนวิลล์ ค้นพบเจ้าตัวกระตุ้นไฟฟ้านี้เพื่อเซ็กซ์- ซึ่งจริงๆ แล้วเพื่อการคล้ายกล้ามเนื้อ แต่ข้อถกเถียงและบรรยากาศของหนังก็สะท้อนปัญหาเรื่องผลพวงของการ "ไม่ซั่ม" ของหญิงในยุคปลายศตวรรษที่ 19 ได้อย่างน่าสนใจ
http://www.imdb.com/title/tt1435513/