17 พ.ค. 13 (4)

ตัวไม่ได้ไปร่วมงาน ขอร่วมรำลึกถึงเฌอทางเนตนะฮะ

นางสุมาพร “แม่เฌอ” กล่าวว่า “วันนี้เป็นวันที่ 15 พ.ค. อีกครั้งหนึ่ง 3 ปีแล้วที่ลูกชายคนหนึ่งไม่กลับบ้านเลย ยังไม่รู้เหมือนกันว่าไปเที่ยวอยู่แถวไหน ปีที่ 1 และ 2 ก็ยังทำใจไม่ได้ รู้สึกว่าเราอาจจะฝันไปก็ได้ เขาอาจจะกลับมา แต่ปีที่ 3 เราเริ่มทำใจแล้วว่ามันเป็นความจริงที่เกิดขึ้นกับชีวิตและครอบครัวของเรา วันนี้ขอบคุณมากๆที่ทุกคนมาร่วมรำลึกด้วยกัน สำหรับปีนี้ก็คงเป็นปีสุดท้ายที่เราจะได้มีโอกาสมานั่งตรงนี้พร้อมๆกัน เพราะมันไม่ใช่เรื่องของปัจเจกชนที่เราจะต้องมารำลึกถึงเด็กผู้ชายคนหนึ่ง เราควรจะมีกิจกรรมที่จะให้คนอื่นมากกว่า สำหรับเฌอคงไม่รู้หรอกว่าใครมาตรงนี้บ้าง แต่สำหรับพ่อกับแม่ของเฌอรู้ และเห็น และขอบคุณมากๆ อยากเชิญทุกคนร่วมรำลึกถึงเจ้าเด็กเกเรคนนั้นที่ไม่ยอมเชื่อแม่และก็ออกมากลางคืนคืนนั้น”

เฌอ...อย่าลืมฉัน” 3 ปีแล้วที่ลูกชายไม่กลับบ้าน

ครอบครัวศรีเทพและเพื่อน รำลึก "เฌอ" เด็กหนุ่มวัย 17 เหยื่อกระสุน พ.ค.53 แม่เผยรำลึกปีสุดท้าย เปลี่ยนเป็น “กองทุนเฌอ” ให้ทุนหนุนนักกิจกรรมทางการเมืองและสังคม พ่อวอนรัฐบาลค้นหาความจริงอย่างเป็นระบบ เผยคดีไม่คืบเพราะไม่มีประจักษ์พยาน


อ่านต่อ

ปีเตอร์ ศรี มีเฌอเป็นลูกรัก

สืบเนื่องจากเรื่องเฌอ (๓)

หลายคนที่ไปร่วมงาน "เฌอ...อย่าลืมฉัน" โดยเฉพาะสื่อมวลชนสงสัยไต่ถามมาว่า prop. รูปคน และมีตัวเลขกำกับตามตำแหน่งร่างกายมันคืออะไร เมื่อได้รับการอธิบายจากน้องน้องทีมงานหลายคนจึงเข้าใจ

ผมขออธิบายเพิ่มเติมสำหรับท่านที่เห็นภาพงาน หรือเห็นภาพนี้ในหนังสือพิมพ์ข่าวสด prop. ดังกล่าวนำมาจากกราฟสรุปสถิติตำแหน่งบาดแผลของผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์สลายการชุมนุม ๑๓ - ๑๙ เมษา - พฤษภา ๒๕๕๓ ซึ่งนำมาจากเอกสารรายงาน "ข้อเท็จจริงเบื้องต้นเกี่ยวกับเหตุการณ์ความรุนแรงทางการเมือง ระหว่างวันที่ ๑๓ - ๒๐ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๕๓ สำรวจและจัดทำโดย ดร.บัณฑิต จันทร์โรจนกิจและกลุ่มมรสุมชายขอบ" เสนอรายงานนี้เมื่อวันที่ ๘ พฤษภาคม ๒๕๕๔

ที่มาของรายงานนี้มาจากการที่อาจารย์บัณฑิต ได้รับการแต่งตั้งเป็นอนุกรรมการเพื่อดำเนินการตรวจสอบและค้นหาความจริงเฉพาะกรณี คณะที่ ๔ ซึ่งภายหลังเนื่องจากความล่าช้าของกระบวนการทางราชการ และความสับสนของการเก็บข้อมูลพื้นฐาน อาจารย์จึงถอนตัวออกมา และจัดตั้งกลุ่มร่วมกับนักศึกษาอาสาสมัครจากหลายสถาบันทำรายงานชิ้นนี้ขึ้น โดยได้รับการสนับสนุนงบประมาณจาก คอป.

ในคำนำระบุว่าความรุนแรงได้ยกระดับขึ้นหลังจากการสังหาร พล.ต.ขัตติยะ สวัสดิผล เมื่อวันที่ ๑๓ พฤษภาคม ๒๕๕๓

อย่างไรก็ตาม ด้วยข้อจำกัดในด้านระยะเวลา ทีมงาน และข้อมูลพื้นฐาน ฯลฯ การสำรวจและจัดทำข้อมูลของรายงานชิ้นนี้ จึงครอบคลุมเพียงวันที่ ๑๓ - ๒๐ พฤษภาคม และไม่มีกรณีการสังหารหมู่ที่วัดปทุมวนารามจำนวน ๖ ศพ รวมอยู่ด้วย

ในกราฟระบุตำแหน่งบาดแผลของผู้เสียชีวิตว่าเป็นบริเวณศรีษะ ๒๐ ราย ลำคอ ๖ ราย ช่วงอก ๑๕ ราย แขน ๒ ราย บริเวณลำตัว ๘ ราย (เป็นลำตัว ๗ ราย / แผ่นหลังหรือกระดูกสันหลัง ๑ ราย) และขา ๑ ราย รวมที่สามารถระบุตำแหน่งบาดแผลผู้เสียชีวิตได้ ๔๙ ราย ไม่สามารถระบุได้ ๓ ราย ไม่มีบาดแผล ๑ ราย

ซึ่งหลักฐานชั้นต้นนี้ได้หักล้างถ้อยแถลงปฏิบัติการทางทหารที่ว่า "จากเบาไปหาหนัก" , "การยิงลงพื้น", การยิงขึ้นฟ้า" ฯลฯ ของทั้งทางกองทัพ และรัฐบาลอภิสิทธิ์ ไม่เป็นความจริงแต่อย่างใด.

หมายเหตุ
Prop. และกราฟ จัดทำโดยศิลปินว่างมากที่ใช้ชื่อว่า surapongmancodecode

ดูภาพ prop. ที่นี่