25 พ.ค. 13

(1)

ตราบใดที่สำนึกของข้าราชการไทยยังถูกบ่มเพาะกันแต่เพียงว่า "เป็นข้าฯ ในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว" กันอยู่แค่นี้

แม้รัฐบาลที่ประชาชนเลือกตั้งมาจะกู้เงินมาโปะงบประมาณขาดดุลปีละ 30-40% (เพื่อมาเพิ่มเงินเดือนสวัสดิการข้าราชการปีละกว่า 10% ไม่เคยขาด)

หรือจะกู้เงินหรือขายโครงการเป็นเงินสามแสนล้าน หรือสองล้านล้าน เพื่อโครงการพัฒนาประเทศได้เก่งแค่ไหนก็ตาม

เงินจำนวนมากก็จะถูกใช้อย่างรั่วไหลในนามเพื่อ "พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว"

และผู้ใช้ทั้งนักการเมือง ทหาร ตำรวจ ข้าราชการ ก็จะไม่ใช้มันอย่าง 1) ไม่เคารพประชาชนผู้ร่วมแบกรับผลกระทบจากการต้องหาเงินมาใช้หนี้เหล่านี้ 2) ไม่ใส่ใจว่าเงินที่ใช้ได้ก่อประโยชน์สูงสุดหรือไม่ และ 3)ไม่ประมาณการอย่างรอบคอบว่าการใช้เงินเหล่านี้จะสร้างปัญหาให้ต้องแก้ไขกันในระยะยาวหรือไม่อย่างไร

ตราบใดที่นักการเมืองและลูกจ้างรัฐที่คุมและกำกับนโยบายเหล่านี้ยังไม่มีจิตสำนึกแห่งการ "เป็นลูกจ้างประชาชน" งบประมาณแผ่นดินของประเทศไทยก็ไม่ได้ถูกใช้อย่างมีจิตสำนึกรับผิดชอบ

เราตรวจสอบและกำกับนักการเมืองได้แค่ไหน?
เราตรวจสอบและกำกับลูกจ้างรัฐได้มากแค่ไหน?
ถ้าการเมืองไทยยังอิงอยู่กับคำนิยามมากมายที่ปิดปากประชาชนอยู่ อาทิเช่นคำว่า "ข้าฯ ในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว" กันอยู่เช่นนี้!

* * *
(2)

ฝากนิดนะฮะ

เวลาจะเชลียร์ใคร หรือยกย่องใครอย่างสุดลิ่มทิ่มประตูกันเนี่ย ... ฝากคิดทางหนีที่ไล่เวลาเทวดาตกสวรรค์หรือเวลาเขา "ดีแตก" กันบ้างนะฮะ

คนมันก็เหมือนกันหมดนั่นล่ะ ถ้าทำอะไรบ้างในชีวิตนี้มันก็มีร่องรอยบาดแผลและความผิดพลาดทิ้งให้เห็น ให้วิจารณ์ ให้ด่า กันได้ทุกคนล่ะ

คนที่ "ดีหาที่ติมิได้" มักจะเป็นคนที่ไม่เคยทำอะไร "ด้วยตัวเอง" เลย มีแต่ให้คนอื่นทำให้ เพื่อจะได้อ้างให้พ้นตัวได้ตลอดเวลาว่า "กูไม่ได้ทำ" "กูไม่ผิด" "กูดีที่สุด"

อนึ่งคำเตือนนี้ กูก็ใช้กับกูด้วยฮะ เพราะกูเองก็ไม่ใช่เทวดาหรือคนดีไม่มีที่ติอะไร ทำงานมาจะ 30 ปี กูก็ไม่ใช่แต่ทำดีเลิศประเสริฐศรีหาที่ติไม่ได้ กูก็สร้างปัญหาและผลกระทบทั้งกับตัวเองผู้ร่วมงาน และคนรอบข้าง ไว้ให้เป็นบทเรียน ไว้ให้ศึกษาวิพากษ์อยู่เยอะเหมือนกันฮะ

กำลังคิดเหมือนกันว่า "อยากเป็นคนดี" แต่ไม่รู้จะทำได้ยังไง อิ อิ
* * *

(3)
จรรยายืนยันว่ากูอยากเป็นนักเขียน อยากจะเขียนเรื่องเมืองไทย อยากเขียนเรื่องปัญหาเมืองไทย โดยเฉพาะปัญหาแรงงานและปัญหาสังคม

เข้าใจฮะว่าทำอย่างอื่นอาจจะได้เงินมากกว่า และจะสบายกว่านี้

และก็ขอบคุณทุกความห่วงใยและคำแนะนำว่า ทำไมไม่ทำอย่างนี้ล่ะ ทำไมไม่ทำงานนั้นล่ะ ทำไมไม่ทำเรื่องขอลี้ภัยล่ะ บลา บลา

ถ้าการพยายามขายหนังสือทุกเล่มล้มเหลว และขายไม่ได้จริงๆ จรรยาจะยอมแพ้ฮะ จะเลิกเขียน เลิกเขียนหนังสือขาย และก็จะไปทำอย่างนั้น อย่างนี้ตามที่แนะนำกันมานะฮะ

ขอบคุณมากๆ
* * *

(4)
เครียดมากไม่ดี 
เอาฮากันหน่อยฮะ

* * * 
(5)


Britain's Queen Elizabeth II toured Cambridge yesterday by bus, after arriving on a public train

รู้สึกวังอังกฤษจะอ่อนไหวกับคำวิจารณ์มาก เดี๋ยวนี้ไปไหนมาไหนกันก็ไม่เป็นขบวนใหญ่ เดินทางด้วยรถสาธารณะ ทั้งรถไฟ หรือรถบัส

แหม วังอังกฤษต้องทำงานกันหนักมาก กลัวประชาชนจะไม่รัก
และก็ใช้กฎหมายหมิ่นกษัตริย์จับคนไม่รักเข้าคุกไม่ได้ด้วยซิ

ถ้าวังไทยอ่อนไหวและปรับตัวด้านภาพลักษณ์ต่อสาธารณชนทั้งคนไทยและต่างชาติบ้างก็คงจะดีนะ บ้างเมืองไทยจะได้สงบสุขกันได้เสียที
* * *

(6)
นอกจากหน้ากากเวนเดตต้า และสัญลักษณ์คอมมิวนิสต์ถูกใช้อย่างผิดๆ แล้ว ต่อไปอาจจะไปขุดคำพูดเลนินที่โค่นพระเจ้าซาร์ของรัสเซียมาใช้ผิดๆ หรือถึงขั้นไปขุดคำประกาศคอมมิวนิสต์ของมาร์กขึ้นมาใช้เพื่ออ้างปกป้องสถาบันกษัตริย์ก็ได้น่า

คาดเดากับสลิ่มคนคลั่งเจ้าไทยไม่ได้นะ เพราะพวกเขาสนใจแต่ "ความเท่ห์ ไม่สนใจนิยามความหมายหรือที่มาใดๆ ทั้งสิ้น"


Thongchai Pongpan