9 พ.ค. 13 (3)


Open Heart

ในความทรงจำที่งดงาม คือการอยู่ท่ามกลางนักกิจกรรมหญิงรุ่นใหม่ไฟแรง

ด้วยการเดินทางเยอะและเพื่อนเยอะ การสร้างบ้านเปิดใจจึงมุ่งที่จะให้มันเป็นพื้นที่ที่เพื่อนฝูงทั้งจากประเทศไทยและไม่ว่าจากประเทศอะไร ได้เดินทางมาเที่ยวมาใช้เป็นสถานที่พักผ่อน พูดคุย หรือวางแผนกิจกรรมกัน

และความภูมิใจที่หนึ่งที่ได้ทำที่นั่นก่อนวิกฤตการเมืองคือได้มีโอกาสต้อนรับนักกิจกรรมสาวๆ เฟมินิสต์รุ่นแรกและรุ่นใหม่จากพนมเปญ และเอเชีย สองสามครั้งก่อนที่จรรยาจะไม่ได้กลับบ้าน

น้องๆ จากพนมเปญกลุ่มนี้เป็นทั้งกำลังของขบวนการภาคประชาชนกัมพูชาอย่างแท้จริง โดยเฉพาะต่อความสำเร็จในการจัดตั้งสหภาพคนงานเย็บผ้า และผลักดันให้แก้ไขปัญหาแรงงานหญิง และเปิดศูนย์ให้ความช่วยเหลือคนงานหญิงไปทุกย่านโรงงานทั่วพนมเปญ

และพวกเธอยังเป็นผู้อยู่เบื้องหน้าและเบื้องหลังก ารจัดตั้งสหภาพคนขายบริการที่กัมพูชา ที่เป็นที่รู้จักทั่วโลก

พวกเธอคืนคนที่นำคนงานหญิงเดินบนท้องถนนเพื่อประท้วงการใช้คนขายบริการทางเพศของกัมพูชาเป็นหนูทดลองยาเอดส์ และประท้วงข้อตกลงการค้าเสรีที่ส่งผลต่อคนงานและชาวบ้าน

พวกเธอตั้งวงดนตรีคนงานหญิง The Messangers Band ที่เดินทางใช้เสียงเพลง เพื่อบอกเล่าปัญหาของแรงงานแะปัญหาจากเสรีนิยมใหม่ไปยังหมู่บ้านต่างๆ ทั่วกัมพูชา

และตอนนี้พวกเธอหลายคนลงไปช่วยชาวบ้านในชนบทสู้กับเรื่องปัญหาการรุกที่ดินและการไล่ที่ดิน

เด็กสาววัย 20-30 ที่ที่ทำงานเพื่อประเทศกัมพูชากันตั้งแต่วัยยังไม่ถึง 20 ที่หลายคนเติบโตมาจากการเป็นกรรมกรโรงงานเย็บผ้า และทนสหภาพการทำงานที่ย่ำแย่ไม่ได้จนลุกมาต่อสู้กับโรงงานตัวเอง และออกมาต่อสู้ร่วมกันในการแก้ปัญหาระดับชาติ

พวกเธอต่างพากันเรียนเพิ่มเติมภาคค่ำ เรียนกฎหมาย เรียนภาษาอังกฤษ เรียนดนตรี เรียนร้องเพลง เรียนคอมพิวเตอร์ และทำงานกับคนงานและชาวบ้านกันโดยไม่ได้หยุดพัก

กำลังใจที่แต่ละคนมีคือ พลังแห่งมิตรภาพและการมีกันและกันที่เกาะกลุ่มกันเหนียวแน่น

พวกเธอร่วม 20 คนเหล่านี้ คือนางฟ้าของประเทศกัมพูชาที่แท้จริง

ทุกครั้งที่ได้อยู่ท่ามกลางสาวๆ ที่เก่งกาจและมีพลังเหลือเฟือที่จะแก้ปัญหาของประเทศของเธอ เหล่านี้ ไม่ว่ายามเจอกันที่พนมเปญ ที่ประเทศหนึ่งในเอเชีย หรือที่ประเทศไทย ก็ทำให้จรรยามีกำลังใจที่จะทำงานเสมอ

รักทุกคน และดีใจที่ได้มีโอกาสต้อนรับและจัดกิจกรรมดูงานที่เชียงใหม่ให้กับพวกเธอเมื่อปลายปี 2552